วัดเซนนิว-จิตั้งอยู่บนเนินของฮิงาชิยาม่า ซึ่งเป็นเทือกเขาฝั่งตะวันออกของเกียวโต อาจจะเดินทางไปได้ยากสักหน่อยเพราะอยู่นอกเส้นทางปีนเขาหลัก แต่แม้จะเข้าไปลำบาก ก็เป็นวัดพุทธในเกียวโตที่เรียกว่าห้ามพลาด เนื่องจากถูกรายล้อมด้วยป่าทึบ จึงได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีแม้กระทั่งจากคนแถวนั้นเองก็ตาม ที่นี่เป็นสถานที่แห่งความสงบซึ่งมีสุสานของจักรพรรดิมากกว่า 25 องค์
ซุ้มประตูไม้ที่ดูเรียบง่ายแต่มหึมาทางฝั่งตะวันตกของวัดเป็นเหมือนพรมแดนกั้นระหว่างโลกธรรมดากับโลกที่ศักดิ์สิทธิ์ การเดินทางของคุณเริ่มต้นที่นี่ แม้ระยะทางจะสั้น แต่ก็ชันพอสมควร เลี้ยวขวาที่ทางแยกแล้วตามถนนใหญ่เพื่อไปยังซุ้มประตูหลัก (ไดมอน) ของวัด
มีการกล่าวว่าเซนนิว-จิหรือ "วัดแห่งน้ำพรั่งพรู" ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 13 โดยพระจุนโจผู้โด่งดัง ด้วยการสนับสนุนของเหล่าขุนนางศักดินาแหละตระกูลชนชั้นสูง ท่านก็ได้รับอนุญาตให้สร้างศาลาที่จะกลายเป็นโรงเรียนพุทธอันเจริญรุ่งเรืองในอีกศตวรรษถัดมา ในศตวรรษที่ 15 ที่นี่ถูกไฟไหม้เผาวอดเกือบหมด ก่อนที่จะมีการบูรณะอาคารใหม่ในกลางศตวรรษที่สิบเจ็ดและได้คงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
พอซื้อตั๋วแล้ว ให้ไปทางซ้ายเพื่อเข้าสู่ศาลาเล็ก โยคิฮิคันนอน-โด คุณสามารถสักการะพระพุทธรูปหายากขององค์คันนอน เทพีแห่งความกรุณาของศาสนาพุทธ ที่นำกลับมาจากประเทศจีนในค.ศ. 1255 กล่าวกันว่าได้ถูกสลักขึ้นเพื่อสะท้อนถึงความงามขององค์จักรพรรดินีหยางกุ้ยเฟยระดับตำนานของจีน ก่อนปี 1955 ขุมทรัพย์อันล้ำค่านี้ได้ถูกเก็บซ่อนไว้และจะนำออกมาสู่สายตาสาธารณะเพียงครั้งเดียวในรอบร้อยปีเท่านั้น!
เลี้ยวซ้ายตอนออกและตามเส้นทางไปจนถึงศาลาใหญ่ (ฮอนเดน) ด้านหลังนั้นจะเป็นศาลาพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้า (ชาริเดน) อาคารทั้งสองหลังได้อิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมจีนเต็ม ๆ สามารถเข้าชมศาลาใหญ่ได้ตามอัธยาศัยซึ่งมีสิ่งของล้ำค่าหลายอย่าง รวมไปถึงพระพุทธรูปเนื้อทองหายาก ส่วนชาริเดนที่กล่าวกันว่าประดิษฐานพระธาตุส่วนฟันขององค์พระพุทธเจ้าไว้นั้นไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมยกเว้นในโอกาสพิเศษ แต่ก็ยังสามารถชมความงามของหลังคาโค้งกระเบื้องสุดงาม ที่จะมีประกายระยิบระยับในวันที่ฝนตก
ก่อนจะเข้าสู่ศาลาสุดท้ายของวัด แนะนำให้ไปทางด้านขวามือด้านหลังศาลาพระธาตุก่อน เส้นทางแคบตัดผ่านป่าจะนำคุณไปสู่สุสานจักรพรรดิที่มีเพียงหนึ่งเดียวในญี่ปุ่น นับแต่ค.ศ. 1242 จักรพรรดิสิบสี่องค์และเชื้อพระวงศ์อีกหลายองค์ถูกฝังพระศพที่นี่ ด้วยความห่างไกลจากแสงสีและความวุ่นวายในมหานคร คุณจะไม่ได้ยินเสียงแห่งความรีบเร่งใด ๆ และแทบไม่พบเห็นใครเลย...
จากนั้นคุณสามารถกลับไปชมห้องจักรพรรดิ (โงซาโฉะ) ได้ถ้าอยาก ที่นี่เคยเป็นสถานที่พักผ่อนของตระกูลจักรพรรดิมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ทั้งรูปถ่าย ของใช้ส่วนพระองค์ ผลงานศิลปะและฉากกั้นถูกนำมาแสดงไว้ที่นี่ ตั๋วมีขายที่เคานท์เตอร์และคุณต้อวถอดรองเท้าก่อนเข้าวัด ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม สีแดงเพลิงของใบเมเปิลจะทำให้สวนด้านในเปี่ยนด้วยเสน่หืแห่งสีสันฉูดฉาด มาชมช่วงเวลาแห่งความสงบนี้ไปพร้อมกับนั่งสบาย ๆ บนระเบียงไม้
วัดเซนนิว-จิมักจะถูกเรียกว่ามิเทระหรือวัเดือนสิงหาฯเนื่องจากมความสัมพันธ์กับราชวงศ์ เป็นวัดที่ได้ผ่านกาลเวลายาวนานแบบไม่มีวัดใดในเกียวโตเสมอเหมือน สถาปัตยกรรมชิ้นเอกและบรรยากาศอันแปลกเด่นท่ามกลางมหานครวุ่นวายถือเป็นสถานที่แห่งความสงบสุข คุณจะไม่มีวันลืมความประทับใจครั้งนี้ได้
การเดินทางไปวัดเซนนิว-จิ
สามารถขึ้นแท็กซี่จากสถานีเกียวโตไปเซนนิว-จิได้ (10 นาที ราคา 1000 เยน)
โดยรถไฟ ขึ้นเจอาร์สายนาราจากสถานีเกียวโตแล้วลงที่สถานีโทฟุคุจิ (3 นาที ราคา 140 เยน) ต้องเดินต่อจากสถานีโทฟุคุ-จิไปถึงวัดอีก 10 นาที
โดยรถบัส สามารถขึ้นสาย 208 จากสถานีเกียวโตหรือสาย 207 จากชิโจ คาวาระมาจิ (220 เยน) ให้ขึ้นรถที่วิ่งเส้นตะวันออก (ฮิงาชิ-มูกิ) ทั้งสองสาย แล้วลงที่เซนนิว-จิ มิจิ เดินจากตรงนั้นอีก 7 นาทีถึงประตูวัด
หากเช่ารถยนต์มา ก็มีลานจอดฟรีบริเวณหน้าซุ้มประตูวัด ค่าเข้าชมวัด 500 เยน และจ่ายเพิ่ม 300 เยนเพื่อเข้าชมห้องจักรพรรดิ