เนื่องจากสนามบินนานาชาตินาริตะเป็นหนึ่งในสนามบินที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จึงไม่น่าแปลกใจที่นักเดินทางขาเข้าส่วนใหญ่จะเชื่อมโยงกับเมืองนาริตะ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางการเดินทางแห่งนี้ อย่างไรก็ตามเมืองนาริตะเป็นมากกว่าศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง และมีจุดหมายปลายทางที่หลากหลายซึ่งสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของประเทศ
จากสถานีสนามบินนาริตะ อาคารผู้โดยสาร 1 สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองนาริตะ โดยใช้เวลานั่งรถไฟเพียง 10 นาที บนสาย Keisei Line (ไปยังสถานี Keisei-Narita) หรือนั่งรถไฟสาย Narita Line (ไปยังสถานี JR Narita) ใช้เวลา 11 นาที จากสถานีสนามบินนาริตะ อาคารผู้โดยสาร 2・3 ระยะเวลาในการเดินทางจะเท่ากันหรือสั้นกว่าเล็กน้อย หากคุณเดินทางพร้อมกระเป๋าเดินทาง ทั้งสถานี Keisei-Narita และสถานี JR Narita จะมีล็อคเกอร์แบบหยอดเหรียญให้บริการ เพื่อให้คุณสามารถท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย
ค้นพบวัฒนธรรม ธรรมชาติ และอาหารที่น่าประทับใจของเมืองนาริตะด้านล่างนี้!
วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
เนื่องจากวัดนาริตะ-ซันตั้งอยู่ใจกลางเมือง ทำให้เมืองนาริตะจึงเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองแห่งวัดในสมัยเอโดะ (1603-1868) จนถึงปัจจุบันเมืองแห่งนี้ก็ยังคงรักษาบรรยากาศให้หวนคำนึงถึงอดีตอันมีชีวิตชีวาได้เป็นอย่างลงตัว และไม่เพียงแต่การนำเสนอผ่านทางวัดนาริตะซันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงร้านค้าต่างๆ ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อีกด้วย บรรยากาศที่แปลกตาจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้ก้าวเข้าสู่ยุคโบราณอย่างแท้จริง
นาริตะ-ซัน โอโมเตะซันโด
เริ่มต้นจากสถานีนาริตะและทอดยาวต่อเนื่องประมาณ 800 เมตรไปยังนาริตะ-ซัน ถนนช้อปปิ้งนาริตะ-ซัน โอโมเตะซันโดเป็นถนนช้อปปิ้งที่เรียงรายไปด้วยร้านค้ากว่า 150 ร้าน ที่จำหน่ายงานฝีมือ ของที่ระลึก และอาหารหลากหลายเมนูที่ชวนน้ำลายสอ บริเวณนี้มีทั้งร้านค้าดั้งเดิมและร้านค้าสมัยใหม่ จึงตอบโจทย์นักท่องเที่ยวหลากหลายกลุ่มที่มาเยือนที่นี่
ขณะที่คุณเดินไปตามเส้นทางอันสวยงามแห่งนี้ คุณจะพบกับเสื้อผ้า เซรามิก สิ่งของที่ทำจากไม้ เช่น ตะเกียบ ช้อน ตะกร้า ผักดองญี่ปุ่น เครื่องประดับ และอื่นๆ อีกมากมาย! บรรยากาศที่คึกคักจากการพูดคุยของผู้คนที่เดินผ่านไปมา การซื้อขายสินค้า และกลิ่นหอมของอาหารที่ชวนให้ลิ้มลอง อย่าลืมตามหาคอลเลกชั่นรูปปั้นสัตว์นักษัตรน่ารักๆ บนถนนสายนี้!
เพื่อให้มั่นใจถึงประสบการณ์อันแสนสะดวกสบาย ถนนแห่งนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยมากมายไว้รองรับ รวมถึงพื้นที่พักผ่อน และจุดบริการฟรี Wi-Fi
วัดนาริตะ-ซัน
นาริตะ-ซันก่อตั้งในปี 940 เป็นวัดพุทธที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ซึ่งที่นี่เป็นสถานที่ประดิษฐานรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าฟุโดะ เมียวโอะ โดยว่ากันว่าแกะสลักโดยโคโบะ ไดชิ ผู้ก่อตั้งพุทธศาสนานิกายชินกอน ที่นี่มีพื้นที่กว้างขวางและเปิดให้เข้าชมฟรี อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ 5 รายการ อันเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
จากนาริตะ-ซัน โอโมเตะซันโด ผู้เยี่ยมชมมักจะเข้าไปในวัดผ่านทางทางเข้าโซ-มอน หรือประตูหลักที่มีความสูง 15 เมตร
ใกล้กับทางเข้าจะพบกับสถานที่น่าสนใจ คือ ประตูนิ-โอะ-มอน ซึ่งนำไปสู่โถงอาคารหลักและเจดีย์สามชั้น ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านรายละเอียดและการลงสีที่ประณีต หากมองดูใกล้ๆ จะสังเกตเห็นว่าเชิงชายเจดีย์ประดับด้วยรูปปั้นมังกรที่ดูดุร้าย
ที่ปลายสุดของอาคารแห่งนี้ คุณจะได้พบกับโครงสร้างสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเจดีย์ใหญ่แห่งสันติภาพซึ่งยังคงดูเสมือนใหม่ ด้านในมีการจัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ ตลอดจนห้องสำหรับคัดลอกพระคัมภีร์พุทธศาสนาในภาษาญี่ปุ่น ด้วยพื้นที่อันกว้างใหญ่ของวัด คุณสามารถใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้นในการสำรวจความมหัศจรรย์ของวัดนี้ได้อย่างไม่น่าเบื่อ
เพื่อเป็นการระลึกถึงการมาเยือนที่วัดแห่งนี้ อย่าลืมซื้อเครื่องประดับ เครื่องราง และสิ่งของดั้งเดิมต่างๆ ของนาริตะ-ซัน เช่น ดารุมะ
สมาคมจิตอาสาการท่องเที่ยวนาริตะมีบริการนำเที่ยวนาริตะซัง พร้อมบริการฟรีไกด์เป็นภาษาอังกฤษ รวมถึงภาษาจีน ภาษาสเปน และภาษารัสเซีย หากมีการแจ้งความประสงค์ไว้ล่วงหน้า โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 - 15.00 น. และบริเวณแผนกต้อนรับจะอยู่บริเวณโต๊ะประชาสัมพันธ์หน้าโถงอาคารหลัก
ธรรมชาติ
นอกจากการมอบประสบการณ์ทางวัฒนธรรมแล้ว เมืองนาริตะยังเป็นที่ตั้งของจุดชมธรรมชาติในเมืองที่ผู้มาเยือนสามารถพักผ่อนในบรรยากาศแวดล้อมที่ผ่อนคลายได้อีกด้วย
สวนนาริตะ-ซัน
สวนนาริตะ-ซันอยู่บริเวณทางตะวันออกเฉียงเหนือของนาริตะ-ซัน เป็นโอเอซิสในเมืองขนาด 165,000 ตารางเมตร ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันงดงามตลอดทั้งปี ด้วยขนาดพื้นที่แวดล้อมที่กว้างขวาง ทางเดินอันเงียบสงบทอดยาวผ่านพืชพรรณนานาชนิด ทำให้ที่นี่มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม และมีเสียงสายน้ำบรรเลงในทุกขณะ
สวนแห่งนี้มีพืชพรรณตามฤดูกาลนานาพันธุ์ อาทิเช่น ต้นพลัม ต้นซากุระ กุหลาบพันปี และอื่นๆ อีกมากมาย! ในฤดูใบไม้ร่วง บริเวณนี้จะเต็มไปด้วยใบไม้หลากสีสัน สระน้ำสามแห่งของสวน ได้แก่ มอนจุ-โนะ-อิเคะ, เรียวจุ-โนะ-อิเคะ และเรียวชิ-โนะ-อิเคะ ซึ่งบริเวณนี้เหมาะสำหรับการชมสัตว์ป่า รวมถึงเป็ด ปลาคาร์ฟ และเต่า! อีกทั้งยังมีร้านกาแฟใกล้กับเรียวชิ-โนะ-อิเคะ ที่ขายอาหารปลาอยู่ใกล้กัน
หลังจากเพลิดเพลินกับบรรยากาศความคึกคักของนาริตะ-ซัน โอโมเตะซันโด และนาริตะ-ซันแล้ว สวนแห่งนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเป็นพื้นที่พักผ่อน และเติมพลังให้กับทุกคน
อาหาร
นอกจากเมืองนาริตะจะเป็นขุมทรัพย์ของขนมหวานและของคาวแล้ว เมืองนี้ยังมีชื่อเสียงมากที่สุดในเรื่องของอุนางิ (ปลาไหลน้ำจืด) ที่มีคุณภาพ จนได้มีการนำไปออกแบบเป็นมาสคอตด้านการท่องเที่ยวของเมืองนาริตะที่มีชื่อว่าอุนาริ-คุง ซึ่งเป็นปลาไหลที่อยู่คู่กับเครื่องบิน! อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเมนูอาหารอร่อยในพื้นที่นี้
ของว่างและขนมหวานที่นาริตะ-ซัน โอโมเตะซันโด
หลังจากเดินจนทั่วแล้ว คุณอาจจะรู้สึกหิวขึ้นมาอย่างแน่นอน โชคดีที่นาริตะ-ซัน โอโมเตะซันโดมีอาหารจานด่วนทั้งคาวและหวาน รับประกันเลยว่าจะทำให้ร่างกายของคุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และอิ่มเอมกับรสชาติแสนอร่อยอย่างแน่นอน
ของว่างยอดนิยมอีกอย่างหนึ่ง คือ โอบันยากิ ซึ่งเป็นขนมหวานแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น มีลักษณะภายนอกคล้ายแพนเค้กหนาๆ โดยทั่วไปแล้วมักจะสอดไส้ถั่วหวาน ที่นาริตะ-ซัน โอโมเตะซันโดคุณสามารถซื้อขนมนี้ได้ตามร้านค้าที่กำลังทำสดใหม่จากเตา ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติตอนที่แป้งยังนุ่มอุ่น และหากค่อยๆ เคี้ยวก็ได้รสสัมผัสที่เข้ากันได้ดีกับไส้ถั่วบดที่มีความหนากำลังดี
สำหรับของหวานอื่นๆ ถนนสายนี้ยังมีขนมหวานที่ทำจากมัทฉะ และไอศกรีมงาจำหน่ายอีกด้วย!
หากคุณชื่นชอบขนมขบเคี้ยวรสชาติเค็ม ลองเลือกทานเซมเบ้ ข้าวเกรียบปรุงรส หรือดังโงะย่าง (เกี๊ยวข้าว) เคลือบด้วยซอสหวานและเผ็ด
อุนางิ
เมื่อคุณพร้อมสำหรับมื้ออาหารจริงจังแล้ว เราขอแนะนำให้คุณลองรับประทานอุนางิ บนถนนนาริตะ-ซัน โอโมเตะซันโดคุณจะได้กลิ่นของถ่านฟุ้งกระจายในอากาศ ทำให้คุณอยากลิ้มลองอาหารที่กำลังย่างร้อนๆ นี้ เนื่องจากเมืองนาริตะตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำจืด เช่น ทะเลสาบอินบะ-นุมะ เมนูอุนางิจึงเป็นอาหารจานหลักที่เป็นที่นิยมในพื้นที่นี้มาอย่างยาวนาน คุณจึงสามารถคาดหวังได้กับรสชาติความสดใหม่ของปลาไหลอุนางิได้อย่างแน่นอน
โดยปกติแล้วร้านอาหารจะแล่อุนางิแล้วนำไปย่างบนเตาถ่านทันที โดยทาซอสรสหวานและเค็มเคลือบหนาๆ จากนั้นจะนำปลาที่ย่างเรียบร้อยแล้วมาเสิร์ฟบนข้าว เนื้อปลาไหลจะมีความนุ่มอย่างไม่น่าเชื่อ และมีรสชาติอ่อนๆ ที่เข้ากันได้ดีกับกลิ่นควันและซอส หากคุณไม่ใช่ผู้ที่ชื่นชอบทานอาหารญี่ปุ่นมาก่อน เมนูอุนางิจะทำให้คุณเปิดใจกับอาหารประเภทนี้อย่างแน่นอน
หมายเหตุ เนื่องจากเมนูอุนางิของเมืองนาริตะได้รับความนิยมอย่างมาก ในช่วงอาหารกลางวันถนนอาจมีผู้คนหนาแน่น
ที่พัก
หากคุณกำลังวางแผนท่องเที่ยวเพิ่มเติมหนึ่งวันหรือสองวันในเมืองนาริตะ มั่นใจได้ว่าที่เมืองนี้มีที่พักหลากหลายประเภทให้คุณเลือกสรร ทั้งเรียวกัง โรงแรมขนาดเล็กแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม และโรงแรมที่พนักงานสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เพื่อตอบสนองความต้องการของคุณได้ครบครัน เมืองนี้มีทั้งความสะดวก และสิ่งที่น่าสนใจหลากหลาย เหมาะสำหรับการพักค้างคืนก่อนออกเดินทางสู่จุดหมายปลายทางถัดไปในประเทศญี่ปุ่น
ตอนนี้เมืองนาริตะต่างแตกออกไปจากที่คุณคิดแล้วใช่ไหม?
จากประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัฒนธรรม ธรรมชาติในเมือง และเมนูอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ จะเห็นได้ว่าเมืองนาริตะเป็นมากกว่าสนามบิน และเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางที่น่าสนใจ ดังนั้นครั้งหน้าที่คุณบินมาที่สนามบินนานาชาตินาริตะ อย่าพลาดโอกาสที่จะมาสำรวจเมืองนาริตะให้ได้!