“สถานีชินโอซาก้า” เป็นสถานีสำคัญและเป็นประตูสู่ภาคตะวันตกของญี่ปุ่น
จากที่นี่ คุณสามารถไปเกียวโตได้แบบไปเช้าเย็นกลับ ไปหาของกินแสนอร่อยในใจกลางเมืองโอซาก้าเพียงไม่กี่นาที ไปชมหาดอันสวยงามของเมืองวาคายาม่า และไปเที่ยวฮิโรชิม่าได้อย่างสะดวกสบาย
ถ้าหากคุณมีเจอาร์พาส (JAPAN RAIL PASS หรือ JR Pass) อยู่ในมือ คุณสามารถนั่งรถไฟทุกสายของ JR ไปที่เที่ยวทั้งหลายเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย และยังสามารถไปเยี่ยมชมเมืองอื่นๆ เช่น นารา ฮิเมจิ โกเบ นาโงย่า และ คานาซาว่าได้อีกด้วย
โรงแรม karaksa hotel grande Shin-Osaka Tower เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวในภาคตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น โดยห่างจากสถานีรถไฟชินโอซาก้าเพียงแค่ 5 นาที โรงแรมแห่งนี้เหมาะกับผู้เข้าพักในทุกรูปแบบ ไม่ว่าคุณจะเดินทางคนเดียว มากับคู่รัก ครอบครัว หรือเป็นคณะทัวร์ใหญ่ๆ
โรงแรมมีห้องพักหลากหลายแบบให้เลือก รวมไปถึงห้องพักที่มีประตูติดกันแบบคอนเน็คติ้งรูม (connecting rooms) ถึง 160 ห้อง เหมาะสำหรับครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวหลายคน การที่ห้องเดินถึงกันได้แบบนี้ ทำให้รองรับได้ถึง 6 เตียงในห้องเดียวกัน! ในห้องพักชั้นสูงของโรงแรม คุณสามารถชมวิวที่สวยงามของโอซาก้าได้อีกด้วย
นอกเหนือจากที่ตั้งที่แสนจะสะดวกของโรงแรมเห่งนี้แล้ว ยังมีบริการอื่นๆ สำหรับนักท่องเที่ยว เริ่มจากการเช็กอิน เมื่อเดินทางมาถึงโรงแรม คุณสามารถลัดคิวการเช็กอินได้โดยการนำพาสปอร์ตไปสแกนที่เครื่องเช็กอินอัตโนมัติที่ตั้งอยู่บริเวณล็อบบี้ เครื่องเช็กอินอัตโนมัตินี้มีหลายภาษาให้เลือก จึงทำให้การเช็กอินของคุณสะดวกขึ้นเป็นอย่างมาก
หลังจากเช็กอินเสร็จแล้ว คุณสามารถหยิบของใช้ส่วนตัวที่มุม amenity bar เพื่อนำไปใช้ในห้องพักได้อีกด้วย เช่น แปรงหวีผม ที่โกนหนวด ครีมทาหน้า ฯลฯ โดยเครื่องใช้จำเป็นอื่นๆ เช่น แชมพู ผ้าเช็ดตัว และชุดแปรงสีฟันมีอยู่ในห้องพักอยู่แล้ว (หมายเหตุ โรงแรมอาจมีการเปลี่ยนยี่ห้อผลิตภัณฑ์ สิ่งของที่ amenity bar บางอย่างอาจไม่เหมือนกับในรูปด้านล่าง)
ที่ชั้น 3 ของโรงแรมยังมีบริการเครื่องดื่มต้อนรับ(แบบไม่มีแอลกอฮอล์) ฟรีแก่แขกที่มาพักทุกท่าน เช่น ชา โซดา กาแฟ และน้ำผลไม้ เป็นต้น
เมื่อเข้ามาในห้องพักแล้ว หากท่านใดมีกระเป๋าเดินทางใหญ่ๆ ก็สามารถเก็บไว้ใต้เตียงได้ ทำให้ห้องมีพื้นที่มากขึ้น และทำให้ไม่สะดุดกระเป๋าในตอนกลางคืนอีกด้วย (หมายเหตุ ห้องพักบางห้องอาจจะไม่มีเตียงประเภทนี้)
หลังจากไปเที่ยวข้างนอกมาทั้งวันแล้ว คุณสามารถมาผ่อนคลายความเหนื่อยล้าที่บ่อน้ำร้อนหรือห้องซาวน่าของโรงแรมได้ โดยสามารถเช็กความแออัดของห้องอาบน้ำรวมได้แบบ real-time จากทีวีในห้องของคุณ! และหากไม่แน่ใจมารยาทในการใช้ห้องอาบน้ำรวมแบบคนญี่ปุ่น ทางโรงแรมมีป้ายบอกวิธีการใช้ห้องอาบน้ำรวมหลายภาษาให้เข้าใจได้อย่างง่ายดาย
ภายในห้องพักมีที่เสียบ USB อยู่บริเวณหัวเตียง และทางโรงแรมยังมีอแดปเตอร์ (adaptor) และสายชาร์จที่สามารถรองรับเครื่องใช้ไฟฟ้าจากต่างประเทศให้ยืมอีกด้วย
นอกจากนั้นทางโรงแรมยังมีห้องซักผ้าส่วนกลางสำหรับผู้เข้าพัก ห้องซักผ้านี้อยู่ที่ชั้น 4 ของโรงแรมและคุณสามารถเช็คว่าเครื่องซักผ้านี้ ว่างหรือไม่โดยตรงจากหน้าจอทีวีในห้องของคุณ ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาเดินไปเช็กว่าเครื่องซักผ้าว่างหรือไม่ด้วยตัวเอง ในห้องพักบางประเภทเช่นห้องพักที่มีเสื่อทาทามิ (High Floor Grande Room with Tatami) จะมีเครื่องซักผ้าและอบผ้าได้ในตัวอีกด้วย
หากรู้สึกหิวหรืออยากซื้อของกลางดึก เพียงลงมาที่ชั้น 1 คุณก็จะเจอกับร้านสะดวกซื้อที่เปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึงตี 1 (7:00am – 12:00am) คุณสามารถนำเครื่องดื่ม และของกินกลับขึ้นไปรับประทานบนห้องพักหรืออาจนำไปรับประทานอาหารที่ห้องอาหารของโรงแรม ที่เปิดจนถึงสี่ทุ่ม (10:00pm) นอกจากนี้ เดินเพียง 1 นาทีจากโรงแรมก็มีร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ชั่วโมง ให้บริการอีกด้วย
“ห้องอาบน้ำ” “อ่างล้างมือ” และ “สุขา” ในห้องพักส่วนใหญ่ของโรงแรมเครือ karaksa ต่างจากโรงแรมอื่นๆ ในญี่ปุ่นเนื่องจากทั้งสามบริเวณจะแยกออกจากกันอย่างชัดเจนและเป็นสัดส่วน (โดยทั่วไป หากห้องอาบน้ำ อ่างล้างมือและสุขาอยู่ในห้องเดียวกัน ผู้เข้าพักต้องจะรอให้คนที่เข้าไปก่อนใช้ห้องอาบน้ำหรือทำธุระจนเสร็จ ซึ่งเสียเวลาเป็นอย่างมาก)
ในตอนเช้า มาเติมพลังก่อนออกไปผจญภัยกับบุฟเฟต์ที่ห้องอาหารชั้น 3 ของโรงแรม โดยหลักๆ จะมีขนมปัง สลัดบาร์ ซุป อาหารจานร้อน และขนมหวานนานาชนิดเสิร์ฟสดใหม่ทุกวัน
นอกจากนี้ยังมีอาหารท้องถิ่นของแถบคันไซหลากหลายชนิดมาให้เลือกรับประทาน ซึ่งรายการอาหารจะมีการหมุนเวียนทุกวัน อีกทั้งยังมีอาหารพิเศษของโอซาก้ามาให้ลิ้มลองกันอีกด้วย อย่างเช่น โอโคโนมิยากิ “Okonomiyaki” (แพนเค้กแบบญี่ปุ่น) ทาโกะยากิ “Takoyaki” (ขนมครกญี่ปุ่นไส้ปลาหมึกยักษ์) โดเตะนิ “Dote-ni”(เอ็นเนื้อตุ๋น) คุชิคัตสึ “Kushikatsu” (เนื้อชนิดต่าง และผักเสียบไม้ทอด) ราเมนสไตล์จังหวัดวาคายาม่า “Wakayama Ramen” และ เฮียวโกะ อะคาชิยากิ “Hyogo Akashiyaki” (ขนมครกไส้ปลาหมึกยักษ์เสิร์ฟพร้อมน้ำซุป ของขึ้นชื่อจังหวัดเฮียวโกะ)
ระหว่างที่กำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่นั้น คุณสามารถเข้าเช็กข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำต่างๆพร้อมวิธีการเดินทางได้ผ่านเว็บไซต์ของทางโรงแรม และถ้าหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมคุณสามารถสอบถามพนักงานที่ล็อบบี้ได้ หรือหยิบโบรชัวร์ในภาษาของคุณเพื่อศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ และหลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว การเช็กเอาต์ก็สามารถทำได้ง่ายผ่านเครื่องอัตโนมัติที่คุณใช้เช็กอินนั่นเอง หลังจากเช็กเอาต์เสร็จคุณก็พร้อมที่จะออกไปผจญภัยข้างนอกได้เลย! หากคุณมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หรือสัมภาระมาก โรงแรมมีบริการฝากกระเป๋าในวันที่คุณเช็กอิน และเช็กเอาต์โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมใดๆ ทำให้คุณสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น
คุณสามารถสมัครเป็นสมาชิกของโรงแรมในเครือ karaksa ฟรี และจะได้ส่วนลด 5% จากราคาห้องพักปกติ หากจองห้องโดยตรงผ่านเว็บไซต์โรงแรม karaksa นอกจากนี้ ยังมี 3 แพ็กเกจสุดพิเศษสำหรับครอบครัว “karaksa hotel for families” ที่วางขายเฉพาะบนเว็บไซต์ของโรงแรมให้เลือกอีกด้วย
- แพ็กเกจเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีสามารถใช้เตียงร่วมกับผู้ปกครองฟรี (โดยปกติแล้วจะอนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปีเท่านั้น)
- แพ็กเกจของเล่นฟรี 3 ชิ้นให้สำหรับเด็กทุกคนเลือกตอนเช็กอิน
- แพ็กเกจของใช้เด็ก ได้แก่ ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ทิชชู่เปียก และของใช้เด็กอ่อน
ยิ่งไปกว่านั้น สมาชิกยังได้รับคะแนนสะสมเพื่อนำมาแลกเป็นส่วนลดเพิ่มอีก 5% จากราคาห้องพักปกติ(ต่อการจองหนึ่งครั้ง) ในการเข้าพักครั้งต่อไปที่โรงแรม karaksa ทั่วประเทศญี่ปุ่น
โรงแรมในเครือ karaksa ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่เดินทางเข้าถึงได้ง่าย ทำให้แขกที่มาพักสามารถเดินเล่นเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศในเมืองและทำกิจกรรมต่างๆ ในเมืองได้อย่างสะดวกสบาย และกำลังขยายกิจการไปยังที่ต่างๆ อีกในประเทศญี่ปุ่น เช่น โรงแรม karaksa hotel colors Tokyo Yaesu ซึ่งเพิ่งเปิดใหม่ในวันที่ 31 มีนาคม 2023 ใกล้กับสถานีรถไฟโตเกียว (Tokyo Station) ไม่ว่าคุณจะเลือกพักที่โรงแรมเครือ karaksa สาขาใด มั่นใจได้ว่าทริปญี่ปุ่นของคุณจะราบรื่นและสนุกสนานอย่างแน่นอน