มุริน-อันวิลล่าที่เกียวโต

ยอดนักจัดสวนแห่งเกียวโต#4 - จิเฮย์ โองาวะ (อุเอจิที่ 7)

มุริน-อันวิลล่าเคยเป็นวิลล่าส่วนตัวของนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลอย่างอะริโมโตะ ยามากะตะ ที่นี่ตั้งอยู่ใกล้กับวัดนันเซน-จิในย่ายตัวเมืองของเกียวโต แต่เมื่อได้อยู่ในสวนเราก็รู้สึกว่าเสียงกับความวุ่นวายจากเมืองโดยรอบพลันเงียบหายไป เป็นสวนที่ผสมสไตล์ญี่ปุ่นเข้ากับแบบตะวันตกได้อย่างลงตัว และถูกสร้างขึ้นเมื่อ 120 ปีที่แล้ว

เส้นทางเดิน

ซุ้มประตูมุริน-อันอยู่ติดกับถนนด้านหลัง หลังจ่ายค่าเข้าชมผ่านช่องหน้าต่างแล้ว ก็ให้ตรงเข้าไปในสวน อาคารที่คุณเจอทางด้านขวามือทันทีที่เข้ามาคือบ้านสไตล์ตะวันตกที่ยามากะตะกับบุคคลขั้นสูงในรัฐบาลใช้จัดการประชุมลับครั้งสำคัญก่อนเกิดสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น (ค.ศ. 1904-1905) อาคารทางด้านซ้ายมือเป็นบ้านทรงญี่ปุ่นที่มีชาญี่ปุ่นเสิร์ฟ (เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม) เมื่อตามบั้นบันไดหินและเดินเลียบฝั่งสระน้ำไป ก็จะได้ชมวิวของบริเวณสนามหญ้าพื้นราบไปจนถึงป่าบนภูเขา

สวนมุริน-อัน

สวนแห่งนี้แตกต่างไปจากสวนญี่ปุ่นทั่วไป ถ้าหากสังเกตดี ๆ ก็จะเห็นอิทธิพลจากโลกตะวันตก คำสั่งที่ยามากะตะมอบให้กับอูเอจิที่ 7 ได้รวมถึงสามข้อดังต่อไปนี้ 1) สร้างสวนสนามหญ้า 2) ปลูกต้นเฟอร์ ซีด้าร์ และไซปรัสเยอะ ๆ (ห้ามปลูกต้นสนกับต้นไผ่) 3) นำน้ำจากคลองบิวาโกะซึ่งอยู่ใกล้กันเข้ามาเติมสระในสวน ซึ่งจากข้อหนึ่งกับข้อสองคือลักษณะของสวนแบบตะวันตกเต็ม ๆ อูเอจิได้สร้างสวนที่ผสมความเป็นญี่ปุ่นและตะวันตกได้อย่างลงตัวจนเรารู้สึกว่าเป็นธรรมชาติมาก ๆ ส่วนคำสั่งข้อสามนั้นเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของเกียวโต อูเอจิใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพในการสร้างน้ำตก แม่น้ำ และสระภายในสวน เขาได้สร้างน้ำตกสามแห่งในบริเวณด้านในสุดของสวน น้ำตกไหลลงไปสู่สระน้ำที่ใหญ่แต่ไม่ลึกนัก อูเอจิกล่าวว่าสระแบบตื่นจะทำให้มันดูกว้างและใหญ่กว่าขนาดจริง จากน้ำสายน้ำก็กลายเป็นลำธารและแบ่งมุริ-อันออกเป็นสามส่วนคือ บ้านญี่ปุ่น บ้านตะวันตกและเรือนน้ำชา กับบริเวณสวนด้านใน

อูเอจิที่ 7 กับยามากะตะผู้เป็นนายจ้าง

จิเฮย์ โองาวะเป็นหนึ่งในสองชื่อที่ใช้ต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นตั้งแต่ "อูเอจิ" ลำดับแรก ที่ก่อตั้งบริษัทจัดสวนของเขาในปี 1751 ชื่ออูเอจิ (ที่คล้ายกับชื่อเล่น) ก็ได้ใช้เป็นชื่อของบริษัทต่อกันมา และยังเป็นชื่อของหัวหน้าตระกูลคนปัจจุบัน (ณ ขณะนี้คืออูเอจิที่ 11)

อูเอจิที่ 7 เกิดเมื่อปี 1860 เขาเข้าร่วมกับตระกูลผ่านการแต่งงานกับมิตสุ โองาว่า ลูกสาวของอูเอจิที่ 6 ในปี 1877 ตอนแรกนั้นเขาได้ศึกษาและลอกเลียนสไตล์ การจัดสวนซามูไรของโคโบริ เอนชู อูเอจิที่ 7 บังได้ศึกษาการจัดสวนในทุกแขนงและเริ่มสร้างสรรค์สไตล์ของตัวเองขึ้นมา

ในขณะเดียวกันเจ้าของมุริน-อันอย่างยามากะตะก็เข้าไปมีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลเมย์จิใหม่ (1868-1912) และทำงานในศูนย์กลางอำนาจจนถึงแก่กรรม เขายังได้ใส่วิสัยทัศน์อันละเอียดอ่อนเข้าไปในการออกแบบสวนและขอให้อูเอจิที่ 7 ทำการออกแบบและสร้างสวนญี่ปุ่นที่ก้าวหน้าและทันสมัย

เมื่ออูเอจิเริ่มงานที่มุริน-อัน ยามากะตะได้ถามว่าเขาศึกษาการออกแบบสวนจากหนังสือเล่มไหน อูเอจิที่เจ็ดเอ่ยไปสองสามชื่อ ยามากะตะก็โมโหและพูดว่า "หนังสือจากยุคโน้นมันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสวนเลยสักนิด!" อูเอจิก็ตอบว่า (ยกมาแบบคร่าว ๆ) "ผมเป็นมืออาชีพครับ คงไม่จำเป็นต้องบอกการออกแบบสวนของผมอย่างละเอียดทุกเม็ดให้คุณฟังหรอกว่าไหม?" ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นพลันตะลึงตัวแข็งกันไปหมด ต่างคิดกันว่ายามากะตะคงตวาดใส่และไล่เขาออกในทันที แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น ยามากะตะกับอูเอจิที่ 7 ต่างเกิดความเชื่อมั่นในกันและกัน และยามากะตะก็มีความสุขกับสวนแห่งนี้ไปจนตลอดชีวิตที่เหลืออยู่

นโยบายของอูเอจิที่ 7

ในการประกาศข่าวมรณกรรมของอูเอจิที่ 7 หนังสือพิมพ์โอซาก้า ไมนิจิ ชิมบุนได้ให้ความเห็น (ในวันที่ 4 ธันวาคม 1933) ไว้ว่า ...คำสั่งเสียสุดท้ายของอูเอจิที่เจ็ดที่มอบแก่ตระกูลของเขาคือ "ขอให้ทุกคนจงโชคดี!" เขายังกำชับด้วยว่านักจัดสวนแห่งอูเอจิทุกคนมีภาระรับผิดชอบในการทำให้เกียวโตกลับไปเป็นสถานที่อันมีทิวทัศน์งดงามเหมือนเมื่อครั้งอดีต เขายังได้กล่าวกับบรรดาลูกศิษย์ด้วยว่า บริษัทอูเอจิจะต้องมีความพร้อมเสมอในการให้บริการแก่เรือนน้ำชาและสวนต่าง ๆ ที่มาว่าจ้าง เขากล่าวว่า "นโยบายสำคัญที่สุดของเราคือ เรามีความพร้อมอยู่เสมอ"

และเขายังได้เก็บสะสมส่วนประกอบไว้สำหรับโครงการในอนาคตที่อยู่ติดกับบ้านของเขาเป็นจำนวนมาก ทั้งหินโบราณจากศตวรรษที่ 6-8 ศิลาหน้าหลุมศพจากศต

0
0
บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่
ช่วยเราพัฒนาเว็ปไซต์ JapanTravel.com
ให้คำติชมหรือข้อเสนอแนะ

แสดงความคิดเห็น

Thank you for your support!

Your feedback has been sent.