ปราสาทมารุโอกะ

คิดว่าในฟุกาอิไม่น่ามีอะไรทำใช่ไหม? คิดผิดคิดใหม่ได้นะ! ถึงแม้ปราสาทมารุโอกะมีขนาดเล็กเพียงแค่ 3 ชั้น แต่ในขนาดที่เล็กนั้นก็เต็มไปด้วยเรื่องราวในประวัติศาสตร์ มันถูกขึ้นรายชื่อให้เป็นมรดกทางวัฒธรรมเเละประวัติศาสตร์ที่ก่อสร้างขึ้นในปี 1576 ทำให้ปราสาทเล็กๆแห่งนี้เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดที่หลงเหลืออยู่ในประเทศญี่ปุ่น การเกิดแผ่นดินไหวครั้งสำคัญที่ฟุกาอิในปี 1948 ทำให้ปราสาทพังลงมาแต่มีการสร้างขึ้นใหม่โดยการใช้วัสดุเดิมถึง 80% รวมทั้งกระเบื้องหลังคาหิน(ปราสาทส่วนใหญ่ใช้กระเบื้องหลังคาเซรามิค) ภายในมีกลิ่นของต้นสนและต้นซีดาร์ที่ใช้สร้างและสามารถเห็นอายุของไม้ได้อย่างชัดเจน ปราสาทมีสเน่ห์ของมันอยู่ในตัวแล้วจึงไม่จำเป็นต้องใส่สิ่งเทียมหรือจัดนิทรรศการใดๆเพื่อสร้างคุณค่าเลย

ผู้ที่มีความสนใจและมีความรู้เกี่ยวกับปราสาทและสถาปัตยกรรมจะมีความสนใจในความแตกต่างระหว่างปราสาทนี้และปราสาทที่สร้างขึ้นในศตวรรษต่อมา หนึ่งความแตกต่างที่ผมสังเกตุเห็นคือ ปราสาทมารุโอกะไม่เหมือนกับปราสาทอื่นๆตรงที่ฐานของมันไม่ยื่นเกินออกมาจากขอบของฐาน กันสาดเหล่านี้ยื่นออกมาเลียบกำแพงของปราสาทเพื่อเป็น"หน้าต่างอิชิโอโตะชิ" ช่องว่างระหว่างปราสาทมีไว้ให้ผู้พิทักษ์ปราสาทโยนหินหรือสาดน้ำร้อนหรือโยนสิ่งที่ไม่น่าพิศมัยลงมาใส่ผู้ที่พยายามปีนกำแพงฐานหิน ปราสาทมารุโอกะมีหน้าต่างสำหรับทิ้งหินลงมาด้านล่างแต่มันเป็นระเบียงยื่นออกมา(แต่ยังไงก็มีเกราะกำบังไม่พอ)จากตรงกลางของผนังซึ่งมีอยู่แค่ 2-3 อัน ตามตำนานว่าไว้เมื่อใดก็ตามที่ศัตรูเข้ามาใกล้ปราสาทว่ากันว่าจะมีหมอกหนาปรากฏและซ่อนปราสาทไว้จากอันตราย มีฉายาว่า"คาสุมิกาโจ"หรือปราสาทหมอก

ในปัจจุบันปราสาทมารุโอกะตั้งอยู่ในสวนสาธารณะเล็กๆที่สามารถมองเห็นโรงเรียนมัธยมมารุโอกะและเมืองมารุโอกะได้ นอกจากนี้ยังใช้ปราสามเป็นเวทีกลางในการจัดงานเทศกาลโคชิโร่ มัทสุริ(เทศกาลปราสาทโบราณ)ในช่วงเริ่มต้นของเดือนตุลาคมของทุกๆปี โคมไฟกระดาษที่ประดับประดาไว้รอบสวน ร้านค้าริมทางและผู้ขับร้องเพลงในเทศกาลช่วยสร้างอุโมงค์ย้อนเวลาไปในสมัยก่อน

ดอกซากุระที่ภูเขาโยชิโนะทำให้ปราสาทสวยงามและเป็นสถานที่ยอดนิยมในการมาชมเทศกาลชมดอกไม้และฤดูใบไม้ร่วงและหิมะทำให้ปราสาทดูสวยงามในช่วงอื่นๆของปี

ปราสาทมารุโอกะอยู่ไกลจากสถานีรถไฟทุกแห่งดังนั้นให้นั่งรถโดยสารฮอน มารุโอกะ บาวด์ เคอิฟุกุจากบ่อน้ำพุร้อนอะวะระ, มารุโอกะหรือสถานีฟุกุอิ ที่ออกทุกชั่วโมงแล้วลงรถที่ชิโระ เอริกุชิ การไปเที่ยวปราสาทใช้เวลาไม่นานดังนั้นคุณสามารถเยี่ยชมผาโทะจิโบะ, พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์คัทสุยามะ(หรือคัทสุยามะสกีแจมในช่วงฤดูสกี), วัดเอเฮจิหรือสถานที่ที่น่าสนใจอื่นๆได้ภายในวันเดียว ถ้าคุณอยากไปดูปราสาทที่นี่แหละเหมาะเลย!