ร้านก๋วยเตี๋ยวฮอนเกะ โอวาริยะ

บริการนักเดินทางและผู้แสวงบุญเป็นเวลากว่า 500 ปี

ในยุคญี่ปุ่นกลาง นักแสวงบุญและบริวารจะเดินหรือขี่ม้าไปยังเมืองเก่าแก่ คือ เกียวโต ระหว่างทาง พวกเขาจะพักที่บ้านพักและทานอาหารที่จุดพักข้างถนนซึ่งเสิร์ฟอาหารง่ายๆแต่มีโภชนาการสูง เช่น อุด้งหรือโซบะ ประเพณีในการเสิร์ฟและดูแลนักเดินทางยังคงเป็นเช่นเดียวจนถึงทุกวันนี้

เมื่อเดินจาก พระราชวังจักรวรรดินิยม ชื่อ โอวะริยะเพียงสองสามนาทีก็จะเจอร้านก๋วยเตี๋ยวดั้งเดิม คุณสามารถรับรู้ถึงประวัติศาสตร์ได้ตั้งแต่ช่วงเวลาแรกที่คุณเดินเข้าไปข้างในประตูหน้าซึ่งมีต้นไม้เก่าแก่เรียงรายอยู่และรู้สึกเหมือนมีห้องแออัดเต็มไปหมดทุกทิศทาง โดยมีการออกแบบโดยใช้บันไดแคบๆและหลังคาที่ต่ำๆเนื่องจากคนสมัยก่อนเตี้ย การออกแบบด้วยไม้แนวธรรมชาติและไฟจำนวนมากหมายถึงว่า แม้จะเป็นคนที่สูงที่สุดก็จะรู้สึกสะดวกสบายมากกว่ารู้จักเหมือนโดนขังในที่แคบและถ้าคุณหลงทาง (ดูเหมือนจะมีทางเข้าออกมากกว่าหนึ่งทางจากห้องหนึ่งๆไปสู่เคาน์เตอร์และห้องน้ำ) ห้องพักสี่ส่วนขนาดเล็กหมายถึงว่า คุณจะไม่หลงเป็นเวลานานจนเกินไป ในขณะที่ การตกแต่งไม่ค่อยเหมือนเซตภาพยนตร์ซามูไร การตกแต่งก็สร้างบรรยากาศได้ดีและและเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับการหยุดพักหลังแวะชมวิว

ประวัติศาสตร์ของร้านโซบะคือประวัติศาสตร์ของเกียวโตเอง การที่ได้ทานอาหารซึ่งเสิร์ฟแบบอาหารของครอบครัวจักรวรรดิ (พวกเขาเคยอาศัยอยู่ตรงถนน) ร้านอาหารก็มีชื่อเสียงในเรื่องของคุณภาพโซบะและอุด้ง ที่สำคัญกว่านั้น คือ ดาจิ เจ้าของร้านรุ่นที่ 15 ชื่อ เด็นซาเอะมอน อินาโฮกะบอกผมว่า กุญแจไปสู่ความอร่อย คือ น้ำแร่ เขาย้ำว่า ทางร้านใช้น้ำแร่เกียวโตที่ดีที่สุด แม้ว่าเขามีสาขาที่สองอยู่ที่เกียวโต ชิโจ แต่เขาก็ยังไม่มีแผนการว่าจะเปิดสาขาที่โตเกียว ดังนั้น ครอบครัวจักรวรรดินิยม ต้องมาที่นี่เพื่อลองทางก๋วยเตี๋ยวที่นี่ดู ที่นี่มีจุดเปลี่ยนสำหรับเรื่องราวของร้าน ตอนแรก ร้านแห่งนี้เป็นร้านของหวาน แต่คุณไม่สามารถทานของหวานเป็นมื้อค่ำได้ สำหรับผู้แสวงบุญแล้ว ต้องทานอาหารเป็นกิจจะลักษณะ ในขณะที่เคาน์เตอร์ด้านหน้ายังคงบริการขนมปังกรอบ พร้อมให้บรรยากาศที่ดีในห้องพักชั้นล่างโดยมีเสื่อทาทามิและทานโซบะฮูราอิซึ่งเป็นเมนูดั้งเดิมที่มีเครื่องโรยหน้าอาหารไม่ต่ำกว่าแปดอย่างประกอบไปด้วยหัวเท้า สาหร่าย งา กุ้งทอดเกรียม ถ้าคุณไม่หิวหรือมีงบประมาณที่จำกัดมากๆ คุณอาจเลือกดาจิดั้งเดิมซึ่งราคาจะอยู่ที่ 630 เยน

นอกจากนี้ ทางร้านยังมีเมนูพิเศษตามฤดูกาลและพวกเราโชคดีพอที่มีโอกาสลองทานหน่อไม้เทมปุระซึ่งดีต่อสุขภาพ กรอบมันและอร่อย คุณอินาโอกะบอกผมว่า เวลาที่ดีที่สุดที่จะลองทานโซบะคือ ช่วงใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงหลังเก็บเกี่ยวเมล็ดข้าว ตอนนี้เราพบว่ามีเหตุผลพอที่จะกลับมาเยี่ยมสถานที่แห่งนี้อีกในอนาคต

0
0
บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่
ช่วยเราพัฒนาเว็ปไซต์ JapanTravel.com
ให้คำติชมหรือข้อเสนอแนะ

แสดงความคิดเห็น

Thank you for your support!

Your feedback has been sent.