หากคุณได้ไปเดินแถว สถานีเซนได ที่ทุกๆชั้นคุณจะเห็นป้ายสีส้มอยู่ข้างนอกร้านที่มีขายกิวตัน กิวตันเป็นหนึ่งในสิ่งที่พิเศษในเซนได อย่าพึ่งไปคิดว่ามันเป็นแค่ลิ้นวัว และ เตรียมตัวให้พร้อมกับความสามารถของมืออาชีพ มันจะเป็นรสชาติที่หอมหวานและเต็มไปด้วยรสของเนื้อ ป้ายสีส้มนั้นเป็นป้ายของ ร้านนัดเดทกับกิวตัน (Date no Gyutan) และเชื่อเถอะ พวกเขารู้วิธีที่จะจัดการกับกิวตัน
ร้านนัดเดทกับกิวตัน เป็นร้านเล็กที่เป็นทั้งขายของและร้านอาหาร เปิดร้านในปี 1991 ร้านอยู่ที่ศูนย์กลาง และ รอบๆ ของสถานีเซนไดทั้งหมด ร้านหลักตั้งอยู่แค่เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึง ร้านหลักจะเป็นร้านขายที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นทั้งร้านขายและร้านอาหาร ภายในร้านจะดูยุ่งๆซักเล็กน้อย
แต่อย่าได้กลัวไป พนักงานในร้านให้ความเป็นกันเองมาก เมื่อผมเข้าร้านไป พนักงานได้นำผมไปที่โต๊ะตรงเคาท์เตอร์ทันที ซึ่งผมสามารถเห็น และ ได้กลิ่นของเนื้อกิวตันที่กำลังย่างอยู่ การย่างนี่จะให้ความร้อยด้วยการใช้ไม้ ไฟในไม้ก็จะประทุออกมา แต่เชฟไม่ได้กระพริบตา และทำงานอย่างเป็นมืออาชีพกับฝีมือที่ได้ฝึกม จากการทำงานของเชฟ ทำให้ผมมีความสุขที่จะได้ดูพวกเขาทำ หลายต่อหลายจานมีออเดอร์เข้ามา และ พวกเขารับมันได้อย่างสบาย ที่ร้านนี้ผมแปลกใจมากที่บรรยากาศค่อนข้างเงียบ ผมสามารถได้ยินเพลงที่เปิดในร้านได้ ซึ่งเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตเก่าๆของอังกฤษ แต่เพลงเหล่านี้เปิดให้เข้ากับบรรยากาศของร้านได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว
ส่วนในเรื่องของเมนูนั้นเต็มไปด้วยความหลากหลายเลยทีเดียว ตั้งแต่ขนม จนถึงจานหลัก ซึคิเนะ กับ ไส้กรอกกิวตันเพียงแค่ผมเห็นก็น้ำลายไหลแล้ว แถมยังมีแกงกะหรี่กิวตันอีกด้วย แต่ผมเลือก ชุดสตูว์ กิวตัน เสริฟมาพร้อมกับข้าวบาเล่ห์ และ ซุปหางวัว (ซุบที่่มาพร้อมกับชิ้นเนื้อ) แล้วด้วยสลัดตบท้าย แล้วถ้าคุณหิว (หรืออยากที่จะกินซอสของสตูว์ให้หมด) คุณสามารถเพิ่มข้าวได้เรื่อยๆ สลัดที่ผมเห็นนั้นดูสดมาก พร้อมตกแต่งด้วยสีสันสวยงาม ส่วนเรื่องซุปนั้น ไม่ใช่สไตล์โปรดผม แต่มันเต็มไปด้วยรสชาติ ส่วนสตูว์นั้นอร่อยมาก เนื้อกิวตันมีรสชาติมาก แถมยังละลายในปากซะด้วยสิ
กิวตันนั้นไม่ถูกเลย แต่มันก็ตอบรับความคาดหวังผมได้ ผมจะกลับมากินให้ได้อีกอย่างแน่นอน ในฐานะเนื้อนั้น กิวตัน อาจไม่ใช่ของขวัญ ที่จะมอบให้กับเพื่อนและครอบครัว แต่ผมแนะนำอย่างมากว่าให้คุณลองระหว่างที่อยู่นี่ เพราะมันคือส่วนหนึ่งที่พิเศษที่สุดของเซนได
