พระใหญ่ไดบุตสึแห่งวัดโคโตกุอิน (KotokuIn-ji) เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตในมาคามาคุระทีทุกคนต้องมาเยือน เพราะหลวงพ่อองค์นี้นอกจากจะใหญ่และศักดิ์สิทธิ์แล้วยังเดินทางไปสะดวกด้วย เพียงนั่งรถไฟ สาย enoden line ไปลงสถานี Hase หันหลังให้ที่ซื้อตั๋ว เดินตรงขึ้นไปตามถนนเรื่อยๆ
ประมาณ 600 เมตร จะเห็นทางเข้าวัดอยู่ทางซ้ายมือ หากหลงทางให้เดินตามธงของทัวร์จีนเลยครบ เดินตามนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่มีทางหลง
เพราะทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือเข้าไปสักการะ พระใหญ่ไดบุตสึ ซึ่ง ชื่อเต็มๆของพระพุทธรูปองค์นี้ คือ พระอมิตตาพุทธ นิโอยุราอิ (Amida Nyoyurai) พระพุทธรูปองค์แรกสุดเป็นไม้แกะสลัก ตั้งอยู่ภายในวิหาร สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1243 สูง 24 เมตร (ใหญ่กว่าองค์ปัจจุบัน 1 เท่าตัว) โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระใหญ่ที่วัดโทไดจิแห่งเมืองนารา แต่น่าเสียดายที่วิหารและพระองค์นั้นถูกพายุใต้ผุ่นทำลายเสียหายเกินเยียวยาใน 4 ปีต่อมาหลังจากที่สร้างองค์พระเสร็จ ด้วยสาเหตุก่อนหน้า ชาวเมืองจึงเปลี่ยนวัสดุในการบูรณะตัวองค์พระเป็นโลหะสำริด เพื่อให้มีความคงทน และสร้างวิหารคลุมอีกชั้นหนึ่ง แต่ก็ยังไม่วายเกิดพายุ และแผ่นดินไหว ทำให้ตัววิหารเสียหายอีกหลายครั้ง ด้วยความศรัทธาของชาวเมืองทุกครั้งที่เกิดความเสียหายก็ช่วยกันเรี่ยรายเงินสร้างวิหารใหม่เรื่อยๆ จนกระทั่งครั้ง ค.ศ.1453 เกิดคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มชายฝั่งของเมือง ทำให้บ้านเมืองทั้งหมดรวมถึงวิหารของวัดเสียหาย เหลือเพียงสิ่งเดียวคือองค์พระที่ไม่เป็นอะไร กลายเป็นองค์พระกลางแจ้ง ที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันครับองค์พระที่เราเห็นกันในปัจจุบันสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1252 มีความสูงรวมฐาน 13.35 เมตร (ถ้านับเฉพาะตัวองค์พระจะสูง 11 เมตร) มีน้ำหนักรวม 122 ตัน มีสีดำทั้งตัวองค์พระ แต่เมื่อกาลเวลา ผ่านร้อนฝนลมหนาว ทำให้ตัวพระที่เคยมีสีเดียวกัน ค่อยๆเปลี่ยนสีกลายเป็นสีเขียวจากปฏิกริยาออกไซด์ที่เกิดขึ้นครับถ้าสังเกตดีๆจะเห็นกันว่าองค์พระองค์นี้ดูไม่สมส่วน โดยถ้ามองมาจากไกลๆจะเห็นได้ชัดเลยว่าพระหัตถ์จะเล็กไม่สมส่วนกับตัว เค้าบอกกันว่า ถ้าอยากเห็นองค์พระแบบสมส่วนให้มองในระยะใกล้ๆแล้วแหงนหน้าขึ้นมองครับ จะเห็นว่ารูปปั้นสมส่วนพอดี
นอกจากวัดแห่งนี้จะมีพระใหญ่ให้ชมแล้ว ในสวนของวัดแห่งนี้ยังมีต้นสนที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปลูกไว้ในวโรกาสที่เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เยือนวัดแห่งนี้ในวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.2474 ด้วยครับ (หาต้นนี้ได้ง่ายๆ อยู่ใกล้ๆทางเดินไปห้องน้ำครับ)
สำหรับสิ่งที่ผมประทับใจที่สุด คือ ร้านขายของที่ระลึกในวัดครับ มีของฝากแปลกๆให้นักท่องเที่ยวซื้อติดมือกลับไปฝากคนที่บ้าน ทั้งหน้ากากพระใหญ่ไดบุตสึ ตุ๊กตาพระใหญ่ ขนมรูปพระใหญ่ รวมถึงพวงกุญแจพระใหญ่ไดบุตสึและคิดตี้ไดบุตสึสีหวานแหวว และที่แปลกสุดที่ผมเห็นจะเป็น อมยิ้มรูปหลวงพ่อไดบุตสึที่อมได้จริงขายอีกด้วยครับ เรียกได้ว่าอมพระมาพูดก็ต้องเชื่อเเล้วเเหละทีนี้