บนความสูง 1,044 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นสถานที่ตั้งของสถานีรถกระเช้า Owakudani และเส้นทางเดินไปยังหุบเขาแร่กำมะถัน สถานที่ท่องเที่ยวแสนขึ้นชื่อของฮาโกเน่ เมื่อลงจากกระเช้าแล้วให้เดินข้ามทางม้าลายมายังร้านค้าอีกฟากหนึ่งเพื่อเดินขึ้นไปชมบ่อน้ำแร่กำมะถันบนเขาครับ (ค่าเข้าฟรี) ทางเดินก่อนถึงทางเดินขึ้นไปยังบ่อกำมะถันจะมีร้านค้าตั้งเรียงรายอยู่ มากมาย หากใครหิวก็แวะเติมพลังกันก่อนได้ (แนะนำให้ลองชิมไอศกรีมไข่ไก่ที่ร้านในศูนย์อาหารใกล้ทางขึ้นเขานี้ดูครับอร่อยมากๆ)
วันที่ผมเดินทางไปอากาศหนาวมาก ผมและเพื่อนจึงซื้อไข่ดำจากร้านค้าที่มีตุ๊กตาคิตตี้ตั้งอยู่หน้าร้านมาลองชิมกัน เพราะไม่อยากเผชิญกับอากาศหนาวด้านนอก (นั่งกินในร้านมีฮีตเตอร์ที่นั่งอุ่นๆสบายกว่า) ไข่ต้มบ่อกำมะถัน (ไข่ดำ) ราคา 5 ฟอง 600 เยน คนญี่ปุ่นมีความเชื่อกันว่าเมื่อกินไข่ดำ 1 ฟอง จะทำให้อายุยืนยาวขึ้น 7 ปี เอาสิครับ มาถึงแล้วก็เลยต้องลองกันสักหน่อย อันที่จริงรสชาติของไข่ดำต้มที่เขาขายๆมันก็เหมือนกับไข่ต้มธรรมดานี่แหละ แต่เพราะถูกต้มในบ่อกำมะถัน เปลือกไข่เลยเป็นสีดำครับ
ไข่ดำจะมีจำหน่ายอยู่ทั้งที่ร้านค้าด้านล่าง และบริเวณจุดชมบ่อกำมะถันด้านบนเขา คนส่วนใหญ่จะขึ้นไปกินไข่กันข้างบนมากกว่า เพราะได้บรรยากาศมากกว่าครับ (แต่จริงๆร้านทั้งข้างบนและล่างราคาเท่ากัน)
หลังจากที่ผมและเพื่อนกินไข่ดำกันเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินขึ้นไปยังบ่อกำมะถันที่เป็นจุดขายของที่นี่ ระหว่างที่เดินขึ้นไปบนเขานั้นมีสิ่งที่ทำให้พวกผมดีใจ และตื่นเต้นที่สุดนั่นก็คือ... หิมะตกครับ! เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้เห็นหิมะแถมเป็นตอนที่หิมะกำลังตกซะด้วย ดีใจสุดๆเลย (วันที่พวกผมไป อากาศค่อนข้างหนาว ฟ้าออกแนวครึ้มๆ และมีฝนตกปรอยๆครับ) เดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆประมาณ 10 นาทีก็ถึงบ่อกำมะถัน ผู้คนส่วนใหญ่จะมากินไข่ดำกันตรงจุดนี้ แม้จะได้ขึ้นมาถึงบ่อกำมะถัน แต่นักท่องเที่ยวก็ไม่ได้รับอนุญาติให้ต้มไข่เอง จะมีพนักงานคอยต้มและบรรจุใส่ซองขายให้ เรามีหน้าที่แค่ซื้อแล้วแกะกินกันอย่างเดียว ใกล้ๆบ่อจะเห็นรอกอยู่ตัวหนึ่งเป็นรอกที่เค้าใช้ส่งไข่ดำที่ต้มแล้วลงไปให้ร้านค้าข้างล่างครับ ส่งกันแบบร้อนๆเลย หากใครซื้อไข่ดำจากด้านล่างจึงมั่นใจได้แน่นอนครับว่าเป็นไข่แบบเดียวกัน
ปล.คนญี่ปุ่นนิยมกินไข่ดำต้มกันเปล่าๆ หากใครไม่อยากกินไข่ต้มรสจืดๆ แนะนำให้พกซอสหรือน้ำปลาไปเหยาะด้วยก็ดีครับไข่ดำจะได้มีรสชาติ :]