จุดเด่นจุดหนึ่งของญี่ปุ่นคือ ความตั้งใจ ใส่ใจ และแน่วแน่น ในความคิด อุดมการณ์ สิ่งนี้ถูกปูมฟักมานาน และถูกถ่ายทอดแม้ด้านการท่องเที่ยว มีจุดท่องเทียวจุดหนึ่งใน เมืองชิมิบาระ ที่เรียกว่า คาร์ฟสตรีท หรือถนนสายปลาคาร์พ ที่ทางตัวเมืองชิมิบาระ และชาวบ้านที่อยู่อาศัยแห่ง คิดจัดสร้าง บ่อข้างทาง ตามถนนหนทางต่าง ๆ ในตัวเมือง สำหรับเลี้ยงปลาคาร์พ โดยมีชาวบ้าน ช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ให้น้ำนั้นใสสะอาด ให้ปลาคาร์พแหวกว่ายได้อย่าง เพลิดเพลิน จากเมืองที่แสนธรรมดา เรียบง่าย ก็กลายเป็น เมืองแห่งปลาคาร์พ (ที่ยังเรียบง่าย แต่ไม่ธรรมดา)
การดูปลาคาร์พสีสวย ต่าง ๆ ถ้าในเมืองไทย ก็เรียกหาดูไม่ยากนัก หรือไปเที่ยวญี่ปุ่นตามสวนสาธารณะต่าง ๆ ที่บ่อน้ำในสวน ก็มีโอกาสเห็นฝูงปลาคาร์พได้ไม่ยากเย็นนัก สุดท้ายเราก็เห็นแค่ในบ่อที่มีพื้นที่จำกัดเท่านั้น แต่ในเมือง เมืองชิมาบาระ มีมากกว่านั้น เพราะในเมืองนี้ถนนที่เรียกว่า Carp Street (Koi No Mizube Michi) ถนนสายน้ำ ที่มีฝูงปลาคาร์พ แหวกว่ายไปทางคูน้ำข้างทาง มากกว่า 1,500 ตัว แถมน้ำนั้นเป็นน้ำสะอาดบริสุทธิ์ ที่ไหลมาจากแหล่งน้ำพุธรรมชาติ ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ หลายต่อหลายครั้ง
ดังนั้นความสนุกของการท่องเที่ยวนี้ ก็คือนอกจากเราได้เพลิดเพลิน กับบ่อเลี้ยงปลาคาร์พที่ใหญ่มาก เรียกเดินไปทางไหน มองไปทางท่อน้ำข้างทาง ก็หาปลาคาร์พได้ง่าย แล้วยังเป็นการให้เราได้ ใช้ชีวิตแบบไม่เร่งไม่รีบ ค่อยหย่อนอารมณ์ค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ตามถนนหนทางในเมืองแห่งนี้ เรียกว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่เป็นใช้พื้นที่ตัวเมืองได้อย่างชาญฉลาด และต้องยอมรับเลยว่า ญี่ปุ่นเขานำธรรมชาติเข้ากับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ได้อย่างกลมกลืน แถมยังคงความเป็นธรรมชาติอย่างนั้นไว้ได้เป็นอย่างดี เป้นจุดน่าสนใจ ที่นักท่องเที่ยวเห็นแล้วคงต้องเก็บเอาไปฝัน ให้บ้านเกิดเป็นแบบนี้บ้าง ไม่มากก็น้อย แน่นอนว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ แต่ต้องใช้ความร่วมมือร่วมใจ ในการสรรสร้าง สิ่งพิเศษให้เป็นจุดเด่นของเมือง และแน่นอนว่า คงเป็นสวรรค์ของคนรักปลา และนักเลี้ยงปลาคาร์พ
สุดท้ายก็ขอแถมประวัติปลาคาร์พเล็ก น้อย ๆ
ปลาคาร์พ ปลาสีสดสวย ราคาไม่ธรรมดา ถ้าเป็นสายพันธุ์ที่หายาก ปลาคาร์พจริง ๆ แล้วนั้นก็คือ ปลาใน ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Carp นั่นเอง เริ่มแรกเดิมทีมีสีดำ สีน้ำตาล ต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน แถมปลาคาร์พนั้นทานได้อีกด้วย ชาวจีน เลี้ยงไว้ทำเป็นอาหาร แต่ไปเรื่อย ๆ ก็มีการผ่าเหล่ากลายเป็นสีส้มแสง เพราะถือเป็นสีสิริมงคล ต่อมาในศตวรรษที่ 18 ประเทศญี่ปุ่น ก็นิยมเลี้ยงปลาในเป็นอาหาร ต่อมาก็มีนำปลาที่ผ่าเหล่า มาผสมกันไปมา จนได้ ปลาคาร์พสีขาว ลวดลายส้ม ที่เรียกว่า โคฮากุ จึงเรื่อยนิยมมาเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม และเริ่มนิยมในการผสมพันธุ์ ให้มีหลากสีสัน มากขึ้น คนญี่ปุ่นเรียกว่า โค่ย (KOI) นั่นเอง รู้อย่างนี้แล้ว ไปเที่ยวคาร์พสตรีท อย่าเผลอจับไปกินกันนะ อาจจะไม่ได้เที่ยวเรือนจำที่ญี่ปุ่นแทนนะเออ