การได้มานั่งดูการเติมซูชิใส่บนสายพานที่เวียนวนไปรอบๆในร้าน Maguro Bito (まぐろ人) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นร้านซูชิที่เสริฟด้วยระบบสายพานหมุนไปมารอบๆร้านที่ติดอันดับในย่าน Asakusa เลยก็ว่าได้ Maguro นั้นหมายความถึงทูน่าและการลำเลียงซูชิลงบนสายพานซึ่งรู้จักกันดีในชื่อของ otoro (ไขมันใต้ท้องของทูน่า) ฉันจึงลองออกไปหาเจ้าทูน่านี้โดยการตามกลิ่นของมันไป
หลังจากที่ฉันได้ตามหามันจนเจอตามทางที่ฉันคิดว่ามันควรจะอยู่นั่นก็คือร้าน Maguro Bito ฉันหาจุดที่คิดว่าร้านจะตั้งอยู่ สิ่งที่ฉันคิดอยู่ในหัวก็คือ "ฉันเอาจริงหรือนี่?" และแน่นอน มันอาจต้องเกิดขึ้นกับฉันจริงๆ และะมันเกิดขึ้นในวันที่ฉันต้องการซูชิมากเสียด้วยสิ ฉันตรวจดูที่อยู่ของร้านอีกครั้งหนึ่ง เพียงเพื่อจะทำให้ตัวเองมั่นใจว่าฉันไม่ใช่คนต่างถิ่นโง่ๆคนหนึ่ง แต่ฉันก็แอบกลัวเหมือนกันนะ ฉันมาถึงจุดที่คิดว่าน่าจะใช่แล้วล่ะ มีป้ายโปสเตอร์ขนาดเล็กที่อยู่ข้างผนัง และโชคดีที่ฉันพอจะอ่านภาษาญี่ปุ่นในป้ายนั้นได้
ในป้ายนั้นได้นำทางฉันไปสู่ Shin-Nakamise Dori (新仲見世通) ประมาณหนึ่งนาทีจากที่ที่ฉันเคยยืนอยู่ เดินไปเรื่อยๆถึง Orange Street และด้านขวามือก็คือแหล่งช็อปิ้งแห่งแรก ที่นี่มีป้ายซึ่งดูจะโดดเด่นสะดุดตาอยู่เหนือศีรษะ Shin-Nakamise Dori คือแหล่งช็อปิ้งที่แออัดมาก ซึ่งอยู่ขนานกันกับถนน Nakamise ถนนแห่งนี้เป็นแบบฉบับของสถานที่ท่องเที่ยวใน Asakusa ซึ่งเต็มไปด้วยของที่ระลึกราคาแพง ร้านรองเท้าและร้านกระเป๋าเงินหรือสิ่งของธรรมดาที่ไม่จำเป็นสำหรับคุณเลยด้วยซ้ำ
Maguro Bito นั้นตั้งอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายและเสียงดังจอแจของร้านค้าต่างๆ และตั้งอยู่ภายนอกพร้อมแบรนด์ของเขาเอง ซึ่งเป็นป้ายที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนด้วย
เมื่อเข้าไปภายในร้าน คุณจะรู้สึกใจจอใจจ่อกับการพบเจอสิ่งที่อยู่ข้างใน มีเมนูที่เป็นภาษาอังกฤษ สามารถสั่งซูชิในแบบที่คุณไม่เคยเห็นหรือเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับคุณ ระบบการคิดราคาก็ง่ายที่จะเข้าใจโดยดูได้จากสีของจานซูชิที่บอกให้คุณรู้ราคาตั้งแต่ 140 เยน ไปจนถึง 520 เยน ต่อจาน และถ้าคุณยังไม่เห็นซูชิที่ตัวเองชอบมาตามสายพาน คุณสามารถสั่งเชฟได้ว่าคุณอยากทานซูชิแบบไหนได้อีกด้วย
ซูชิชนิดต่างๆที่ฉันได้ลิ้มลองระหว่างการเยี่ยมเยือนร้านแห่งนี้มีทั้ง anago (ปลาไหลทะเล), uni (ไข่หอยเม่นทะเล), ebi (กุ้ง) และ madai (ปลากระพงแดง) ส่วน otoro ยังครองความเป็นที่สุดอยู่ ซึ่งรสชาติของมันนั้นนุ่มลิ้นและชวนให้ลิ้มลอง ฉันจะกลับมาที่ร้านนี้อีกแน่ เพื่อที่จะทานทูน่าที่แสนอร่อยนี้อีกครั้ง แน่นอนว่าปลาชนิดอื่นที่ฉันได้ชิมก็รสชาติดีและควรค่าแก่การลิ้มรส ส่วนการบริการก็มีมาตรฐานที่ดี และพนักงานก็ดูมีความสุขกับการได้พูดคุยหยอกล้อกับลูกค้า ซึ่งพวกเขาแกล้งทำท่าว่าจะโยนวาซาบิและเสริฟจานเปล่าให้
หนึ่งวันที่เต็มไปด้วยการออกไปเดินชมและเที่ยวรอบๆนั้น เราสามารถมารับประทานอาหารมื้อสำคัญได้ที่ Maguro Bito ซึ่งเราจัดเป็นจุดศูนย์กลางได้ สถานที่ท่องเที่ยวรอบๆนั้นมีทั้งวัด Sensoji, Kappabashi Dori และ Tokyo sky Tree เป็นต้น
