หากคุณได้ไปท่องเที่ยวที่เกาะโอมิชิมะ ทางเหนือสุดของจังหวัดเอฮิเมะ เป็นที่ทราบกันดีว่า ทุกคนต้องเข้าไปเที่ยวชมที่ศาลเจ้าโอยามะซุมิ ซึ่งถือเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น ช่วงเวลาที่ดีในการเที่ยวชมนั้นคือช่วงที่ตรงกับเวลาอาหารกลางวัน เมื่อมองข้ามฝั่งถนนจากประตูหน้าศาลเจ้า สายตาของคุณจะไปสะดุดกับอาคารสไตล์ยุค 1970 อาคารสีขาวบริสุทธิ์ ที่ตกแต่งด้วยตัวอักษรคันจิสีน้ำเงินคำว่า "Tairyo (大漁)" ซึ่งมีความหมายว่า การจับปลาอันยิ่งใหญ่ และลวยลายปลากับกุ้งสีแดง นอกจากนั้น คุณจะเห็นคำว่า "Yasui oishii(安い 美味しい)" ซึ่งมีความหมายว่า ถูกและอร่อย ทำให้รูปแบบของอาคารเป็นที่น่าสะดุดตาไม่แพ้แถวที่ยาวเหยียดออกมานอกร้านเลยทีเดียว
อาจพูดได้ว่าคิวยาวเหยียดของผุ้คนที่เลยออกมานอกร้านนั้นเป็นเหมือนการหลอกลวง เพราะบ่อยครั้งที่ผู้คนต่อแถวเข้าคิวเพราะเห็นว่ามีคนเข้าคิวอยู่เยอะ ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งเหตุผลที่ผู้คนเลือกเข้าร้านTairyo นี้ แต่ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถหาร้านอาหารรสเลิศได้มากมายที่โอมิชิมะนี้ ก็ยากที่จะหาทาน Kaisen don(ข้าวหน้าทะเลรวม) ได้ในราคาเพียงแค่ 380 เยน จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดผู้คนถึงหลั่งไหลเข้ามาที่ร้านแห่งนี้ ชาวญี่ปุ่นรักอาหารที่สดใหม่ ปลาดิบ และพวกเขาก็จะหาปลาในระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อที่จะให้ได้ปลาที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด และจะดีเป็นอย่างยิ่ง ถ้ามันจะราคาถูกด้วย Kaisen don ที่ร้าน Tairyo คือข้าวสวยในถ้วยขนาดย่อมที่โปะหน้าด้วยปลาดิบปริมาณพูนจาน ซึ่งประกอบไปด้วย ปลาฮามาจิ ปลาทูน่า ปลาหมึก หอยเชลล์ และปลาไข่แซลมอนที่มีความสดใหม่มาก และราคาถูก เมื่อเหยาะด้วยซอสโชยุ และใส่ด้วยวาซาบิในปริมาณที่พอเหมาะแล้ว ก็จะกลายเป็นอาหารเลิศรสที่ควรค่าแก่การลิ้มลอง
แต่ในเมื่อมาถึงที่แล้ว Kaisen don เพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอแน่สำหรับอาหารมื้อนี้ ยังมีอาหารแนะนำที่ราคาถูกไม่แพ้กันในร้านอีกมากมาย จากเคาน์เตอร์จะได้ยินเสียงจากการปรุงอาหารในรูปแบบต่างๆ ทั้งย่าง, ทอด, ตุ๋น, ต้ม ซึ่งทั้งหมดก็ยังคงราคาย่อมเยาไม่ต่างกัน เมื่อเข้าไปในร้านแล้ว คุณสามารถเลือกที่นั่งได้ตามใจชอบ แล้วพนักงานที่บริการอย่างเป็นมิตรและมีสายตาที่รวดเร็วจะทำการจดบันทึกที่นั่งของคุณเอง
เพื่อที่จะเข้าไปในร้านแห่งนี้ คุณอาจต้องใช้เวลาในการยืนคอยมากกว่า 40 นาที หรือ มาหน้าร้านตั้งแต่ 10 โมงเพื่อมาจองคิวไว้ก่อน ผมเคยต้องมายืนรอนานๆอยู่ครั้งหนึ่ง และในครั้งถัดมา จึงใช้วิธีมาถึงร้านตั้งแต่ 10 โมง ทำให้ได้รับบรรยากาศดีๆในตอนเช้าจากศาลเจ้าและบ้านเรือนแถวนั้น มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก เมื่อถึงเวลาเปิดร้าน 11 โมงครึ่ง แล้วได้เดินข้ามถนนตรงมายังหัวแถว ในที่ที่มีหญิงสาวนั่งรอคิวอยู่ พยายามอ่านหนังสือเรื่อง "Walters" และอุทานออกมาอย่างตลกขบขันว่า "ฮ่า ฮ่า ฉันคิดว่าถึงแม้มันจะเขียนเป็นคะตะคะนะ(ตัวอักษรรูปแบบหนึ่งของญี่ปุ่นที่มันใช้เขียนคำที่มาจากภาษาต่างประเทศ) ฉันก็ยังอ่านมันไม่รู้เรื่องอยู่ดี"
เมื่อถึงเวลาที่ทุกคนพรั่งพรูกันเข้าไปในร้าน สั่งอาหารจากเมนู และเลือกเมนูที่ต้องการจากเคาน์เตอร์ จะเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างสับสนวุ่นวาย แต่ก็จะสงบลงได้ในเวลาเพียงไม่นานนัก ผมขับรถมาที่นี่ ดังนั้นจึงเลือกที่จะสั่งน้ำชาเป็นเครื่องดื่ม แต่ผมชอบสาเกสดที่ร้านแนะนำให้มากกว่าเพราะมันเข้ากับปลาได้ดีเยี่ยมเลย
