มหาวิทยาลัยฮอกไกโดก่อตั้งเมื่อปีค.ศ.1876 โดยศาสตราจารย์วิลเลี่ยม เอส คลาร์ก เป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการเกษตร และเป็นต้นแบบให้กับการเกษตรกรรมต่างๆ ของเกาะฮอกไกโด ดังนั้นบรรยากาศในมหาวิทยาลัยจึงมีความร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้และธรรมชาติที่สวยงาม แนวถนนที่น่าสนใจเส้นหนึ่งคือ กิงโกะอเวนิว หรือถนนต้นแปะก๊วยบริเวณทางเข้าโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย มีต้นกิงโกะประมาณ 70 ต้น ขนานกันไปตามถนนที่ทอดยาวประมาณ 380 เมตร
Ginkgo (กิงโกะ) หรือแปะก๊วย เป็นต้นไม้ยืนต้นโบราณ เชื่อกันว่าเป็นต้นไม้ที่อายุเก่าแก่ที่สุดในโลกมีต้นกำเนิดจากประเทศจีน สารสกัดจากใบแปะก๊วยให้ผลดีในการรักษาโรคความผิดปกติในสมอง โรคหลงลืม สมองเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ ใบของแปะก๊วยมีสีเขียว และจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีประมาณปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน
เพื่อนไปเที่ยวและส่งรูปถ่ายกับแนวต้นกิงโกะสีเหลืองสวยงามมาให้ดู 3-4 วันก่อนที่ฉันจะเดินทางไปฮอกไกโด ฉันนึกฝันที่จะได้ไปเดินเล่นท่ามกลางใบไม้สีเหลืองทองที่แสนโรแมนติก แต่ในวันที่ฉันไปถึงเป็นวันที่หิมะแรกของฤดูหนาวกำลังตกลงมา คาดว่าใบไม้คงร่วงหล่นแล้ว ได้แต่คิดว่าขอให้มีใบสีเหลืองๆ ให้ดูสักนิดก็ยังดี วันต่อมารีบตื่นเช้านั่งแท๊กซี่จากที่พักบริเวณสถานีรถไฟซัปโปโรไปยังมหาวิทยาลัยฮอกไกโด ใช้เวลาประมาณ 5นาที ฉันก็มาถึงถนนสายโรแมนติกเส้นนี้ Ginkgo Avenue สีเหลืองทองของใบกิงโกะยังมีให้เห็นอยู่เต็มไปหมด แต่มีบนพื้นไม่ใช่บนต้นไม้ ฉันมีอาการเหมือนคนอกหักเล็กน้อย เดินย่ำหิมะบนทางเท้าที่ปกคลุมด้วยใบกิงโกะสดๆ ที่เพิ่งหล่นจากต้นไม่เกิน 24 ชั่วโมง เล่นโยนหิมะตามทางไปเรื่อยๆ มองดูนักศึกษาปั่นจักรยาน และผู้คนเดินผ่านไปมา หามุมสวยๆ ถ่ายรูปเล่น แล้วก็พบว่าแนวต้นกิงโกะในวันที่ใบร่วงหล่นใต้ต้นและเต็มไปด้วยหิมะก็สวยไปอีกแบบนึง และปลอบใจตัวเองว่าได้รูปถ่ายที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย