ถ้าคุณต้องการเดินหาร้านซูซูโซบะ สังเกตุได้ง่ายมาก เพราะด้านหน้าของร้านซูซูโซบะจะติดผ้าม่านสีฟ้านาวีบลูตรงกลางเป็นรูปเป็ด ทันทีที่ฉันเดินเข้าร้านซูซู ฉันรู้สึกเหมือนเดินย้อนเวลาไปอาจร้านเป็นตัวอาคารแบบโบราณของเมืองเกเนยาม่า ตรงทางเดินเข้าร้านฉันสะดุดตาด้วยรถลากโบราณจินริกิชะ ตั้งแต่ยุคเมจิขนาดใหญ่อยู่ตรงทางเดิน การตกแต่งภายในร้านก็จะเป็นแบบบ้านเรือนของคนญี่ปุ่นเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว ร้านจัดบริเวณให้คุณได้เปลี่ยนรองเท้ามาเป็นรองเท้าแตะชูจิ เจ้าของร้านคือคุณคาซูโยอาเบะ เธอรับหน้าที่เจ้าของร้านมาเป็นปีที่8แปดแล้ว คุณคาซูโยทำอาหารด้วยตนเองโดยมีสามีเป็นลูกมือคอยจัดเตรียมเส้นโซบะที่ทำด้วยมือให้เธอ
โซบะเป็นก๋วยเตี๋ยวแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ทำจากแป้งบั๊กวีท เชื่อกันว่าเส้นโซบะที่ทำด้วยมือจะมีรสชาติอร่อยและสดกว่าทำด้วยเครื่องโซบะ มี3ชนิด นั่นคือโซบะอิตะ คือโซบะเย็นเสริฟมาบนถาดไม้ไผ่กินกับซอสวาซาบิและผักซูกิโมโนะ ต่อไปคือโซบะไก่ หาทานได้ทั้งแบบเย็นและร้อน สุดท้ายคือโซบะโทโรโร่ นาเมโกะ เป็นโซบะเห็ดนาเมโกะ ส่วนโทโรโร่ก็เป็นผักที่เคี้ยวหนึบเหมือนมันฝรั่ง ทำให้โซบะโทโรโร่ นาเมโกะ มีรสชาติที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ส่วนฉันชอบโซบะแบบนี้ทานร้อนๆในหน้าหนาว
เมนูอาหารในร้านถือว่าเรียบง่ายสำหรับการนั่งกิน ทางร้านเขาก็มีเบาะรองให้ลูกค้านั่งกับพื้น พออิ่มแล้วลูกค้าก็สามารถนั่งเอนหลังได้สักครู่ หากไม่รีบร้อนไปไหน วันนั้นฉันเพลิดเพลินกับบรรยากาศโดยรอบขณะนั่งทานโซบะในร้านนี้ หากพูดถึงตัวอาคารฉันเห็นว่าเพราะเป็นอาคารที่มานานกว่า120ปี ร้านมีซอสซอยและมิโซในรสชาติแบบต้นตำรับญี่ปุ่นแท้ๆ
คุณคาซูโยะตกแต่งผนังร้านด้วยกิโมโนกับโอบิของเธอ ทำให้ร้านดูสดใส เธอเปลี่ยนหน้าร้านสองครั้งต่อปี ตอนปีใหม่และตอนฤดูใบไม้ผลิ และถ้าคุณได้มาเที่ยวที่เมืองนี้ตอนต้นเดือนเมษายน คุณจะได้เห็นการตกแต่งร้านด้วยตุ๊กตาโบราณเพื่อต้อนรับเทศกาลฮินามาซูริหรือเทศกาลสำหรับเด็กหญิง
โซบะเป็นอาหารที่หาทานได้ทั่วญี่ปุ่นแต่สิ่งที่พิเศษของโซบะที่ร้านซูซูคือการเป็นต้นตำรับดั้งเดิมและการรักษารสชาติแต่เดิมไว้ได้โดยไม่ผิดเพี้ยนนั่นเอง
ร้านปิดทุกวันตั้งแต่เวลา11.00-14.00 หยุดวันพุธ
ภัตตคารตั้งอยู่ใกล้กับหอประชุมเคนียามะ
