พื้นที่ฮะกะตะ ของฟุกุโอะกะ เป็นหนึ่งในสองพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางของเขตนี้ พื้นที่อีกแห่งที่ทันสมัยและเท่กว่าคือเท็นจิน ฮะกะตะจะมีกลิ่นอายที่เคร่งขรึมกว่าเมื่อเทียบกับเท็นจินในย่านดาวน์ทาวน์ แต่ฮากาตะก็มีสวรรค์ของนักช้อปของตัวเอง ศูนย์การค้าที่ใหญ่มากๆ Amu Plaza Hakata มีร้านค้าอยู่มากกว่า 230 ร้าน หยุดพักจากการซื้อข้าวของและตรงไปที่สวนญี่ปุ่นระกุซุอิ-เอ็น (Rakusui-en) และโรงน้ำชาที่เงียบสงบ
สวนระกุซุอิ-เอ็น และโรงน้ำชา ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของศาลเจ้าซุมิโยะชิ (Sumiyoshi) สวนญี่ปุ่นจะมีลักษณะพิเศษในเรื่องความเรียบง่ายและสง่างาม สวนระกุซุอิ-เอ็นจะเป็นที่หลบหนีจากความเร่งรีบและคึกคักของสถานีรถไฟที่อยู่ใกล้เคียง และเป็นที่เที่ยวชมอีกแห่ง เมื่อคุณอยู่ในบริเวณนี้ ชื่อของสวนมาจากพ่อค้าในฮะกะตะ ฮิกะมะซะ ชิโมะซะวะเอะเนะมอน (hikamasa Shimozawaenemon) บุคคลสำคัญในการพัฒนาฟุกุโอะกะ
สำหรับค่าเข้าชม 100 เยนเล็กๆ น้อยๆนี้ คุณสามารถใช้เวลาในการซึมซับความงามของสวน ได้นานเท่าที่คุณต้องการ บางคนอาจคิดว่าสวนนี้ไม่ค่อยจะมีอะไร ขอให้รำลึกไว้ว่าสวนญี่ปุ่นจะไม่ค่อยหวือหวา การตกแต่งสวนแบบเรียบง่ายกลับทำให้สวนดูน่าสนใจ
เมื่อเข้าไปในสวน อย่าลืมสังเกตุดูกำแพงดิน ที่เรียกกันว่า ฮะกะทะเบะอิ (hakatabei) กำแพงนี้สร้างขึ้นในช่วงหลังสงคราม โดย ฮิเดะโยะชิ โทะโยะโทะมิ (Hideyoshi Toyotomi) เจ้าเมืองและหัวหน้าคณะรัฐมนตรี ภายในกำแพงนี้คุณจะเห็นชิ้นส่วนของก้อนหินและกระเบื้องที่ยึดติดกันด้วยดินเหนียว
ถ้าเพิ่มเงินอีก 50 เยนในค่าเข้าชม คุณจะได้รับถุงอาหารปลาโคะอิ (ปลาคาร์พ) เล็กๆ ฉันขอแนะนำให้ซื้ออาหารปลาโคะอิ เพราะจะทำให้การชมปลาสนุกมากขึ้น ปลาโคะอิจะว่ายแข่งกันมาที่อาหาร และเขมือบอาหารกันอย่างรวดเร็ว
นั่งลงบนม้านั่งที่มีผ้าคลุมสีแดง และซึมซับเสียงหวานๆ ของซุอิคินคุซุ (suikinkutsu) เครื่องดนตรีประดับสวนญี่ปุ่น และเสียงพรั่งพรูของน้ำตกที่อยู่ใกล้เคียง
ภายในโรงน้ำชาคุณจะพบกับห้องเสื่อทาทามิสามห้อง รวมทั้งสามห้องเข้าด้วยกัน ก็จะได้ห้องน้ำชาขนาดใหญ่ ถ้าคุณสนใจจะใช้ห้องน้ำชานี้ ให้ติดต่อสำนักงานของสวนระกุซุอิ-เอ็น (มีค่าใช้จ่ายในการสำรองห้อง)
