วัดคาสะโมริ-จิตั้งอยู่ที่ใจกลางจังหวัดชิบะ เป็นวัดที่สง่างามสร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ. 784 วัดแห่งนี้มักถูกเอ่ยถึงองค์คาสะโมริ-คันนอนเพราะเป็นที่ประดิษฐานของภาพคันนอนหรือเทพีแห่งความเมตตาทั้งสิบเอ็ดพักตร์ ศาลาใหญ่หรือคันนอน-โดะถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1028 และตั้งสูงอยู่บนเนินหินขนาดใหญ่ มีเสาประมาณ 60 เสาช่วยค้ำยันโครงสร้างไว้ และกล่าวกันว่ามีอาคารประเภทนี้เพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่น
คาสะโมริ-คันนอนเป็นจุดพักลำดับที่ 31 บนบันโด ซันจูซันคะโช เส้นทางแสวงบุญที่นำพานักเดินทางสู่วัดคันนอน 33 แห่งของบันโดซึ่งเป็นชื่อเรียกสมัยอดีตของแถบคันโต (หมายถึงโตเกียวและปริมณฑล)
ที่นี่ยังถูกประทับอยู่ในภาพพิมพ์แกะไม้ของฮิโรชิเงะ อุทางาวะในผลงาน "100 ทิวทัศน์สถานที่ชื่อดังของจังหวัด" เมื่อปี 1859 นักกวีไฮคุชื่อดังอย่างมัตสุโอะ บาโชก็ได้เขียนถึงวัดแห่งนี้ไว้และมีอนุสาวรีย์สลักข้อความ "ซามิดาเระ นิ โคโนะ คาสะโมริ โอ ซาชิ โฒงุสะ" ซึ่งแปลว่า "ในหน้าฝน ณ วัดคาสะโมริ ข้าพเจ้าได้รับการรมยา"
ทางเข้าของวัดนั้นยาว มีบันไดปูนแคบที่พานักท่องเที่ยวเข้าสู่ป่า ตามเส้นทางจะมีต้นสนยักษ์ที่ "รวมตัว" เป็นหนึ่งเดียวกัน ข้าง ๆ ก็มีต้นไม้ยักษ์ที่มีรุขนาดยักษ์ กล่าวกันว่าถ้าผู้หญิงปีนผ่านรูไปเธอจะตั้งครรภ์
เมือไปต่อจะพบกับซุ้มประตูไม้แสนสวยงาม จ่ายค่าเข้าศาลาใหญ่ราคา 100 เยนตรงนี้ ที่อยู่ตรงหน้าคุณคือองค์คันนอน-โด ก่อนจะปีนขึ้นบันไดไม้สูงชัน นักท่องเที่ยวต้องถอดรองเท้าออกก่อน
วัดแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินสำคัญทางวัฒนธรรมแห่งชาติ ส่วนภูเขาที่รายล้อมอยู่ก็เป็นทรัพย์สมบัติทางธรรมชาติแห่งชาติ เพราะวัดสร้างอยู่บนเนินเขา วิวจึงน่าตื่นตาตื่นใจมาก ในวันที่อากาศสดใส กล่าวกันว่านักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทะเลได้ด้วย
ทุกครั้งที่ไปฝนเหมือนจะตกทุกที แม้จะเปิดในช่วงที่ฝนตกมาสองครั้ง แต่หนนี้ดวงก็ยังไม่ดีเท่าไหร่นัก ศาลลาใหญ่จะปิดถ้าขั้นบันไดลื่นและอันตรายเกินไปต่อการปีน ในศาลาใหญ่ห้ามถ่ายรูปเหมือนกับวัดและศาลเจ้าญี่ปุ่นเกือบทุกแห่งของญี่ปุ่น แต่สามารถถ่ายภาพป่ารอบ ๆ กับบริเวณวัดได้