ณ ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำในเขตสุมิดะเป็นที่ตั้งของโคคุกิคัง สนามกีฬาในร่มขนาดใหญ่ความจุ 13,000 ที่นั่งที่เป็นเจ้าภาพครึ่งหนึ่งของการแข่งขันซูโม่ประจำปี มวยปล้ำซูโม่น่าจะเป็นอีกแง่มุมหนึ่งของวิถีชีวิตญี่ปุ่นที่น่าทึ่งที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และโอกาสที่จะได้เห็นนักกีฬาเหล่านี้ดวลกันแบบสด ๆ คงจะอยู่ในลิสต์ของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนโตเกียวทุกคน
สังเวียนที่น่าประทับใจแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับสถานีเรียวโกคุบนทางรถไฟสายเจอาร์ โซบุ จุดสังเกตคือธงหลากสีที่รายล้อมตัวอาคารในช่วงที่มีการแข่งขัน ภายในอาคารมีร้านรวงที่คุณสามารถซื้อหาโปรแกรมการแข่งขัน(ภาษาอังกฤษ) หรือของที่ระลึกได้ โถงทางเดินมีป้ายบอกทางชัดเจน และการเดินหาที่นั่งของคุณเป็นเรื่องง่าย
เวทีการแข่งขันหลักน่าประทับใจมาก หลังคาแบบชินโตถูกห้อยไว้อยู่เหนือเวทีหรือโดเฮียว ที่ตั้งอยู่ตรงกลาง โดยมีที่นั่งราคาแพงสุดตั้งอยู่รอบ ๆ บริเวณนี้ที่ชั้นล่าง ที่นั่งเหล่านี้จะเริ่มแน่นขนัดก็ต่อเมื่อการแข่งขันรอบท้าย ๆ เริ่มขึ้น ที่นั่งจำนวนมากถูกจับจองเอาไว้โดยครอบครัวที่ยกโขยงกันมาทั้งตระกูล
การแข่งขันซูโม่เป็นกีฬาที่มีพิธีรีตองเยอะ ขนาดพิธีกรรมก่อนแข่งยังยาวนานกว่าการประลองเสียอีก พอการแข่งขันเริ่มปุ๊บแทบไม่มีนัดไหนเลยที่จะกินเวลานานเกินกว่าชั่ววินาที นักซูโม่ดูกระฉับกระเฉงขึ้นมาทันตาเห็นขณะที่พวกเขาพยายามออกแรงผลักคู่ต่อสู้ให้คว่ำลงไปกองกับพื้นหรือกระเด็นออกนอกเวที เรื่องหนึ่งที่ตลกที่สุดก็คือการได้เห็นนักธุรกิจแต่งตัวดีกระโดดหลบนักซูโม่ที่เสียหลักล้มซึ่งเกิดขึ้นบ่อยกว่าที่คุณคาดคิดเสียอีก เนื่องจากไม่มีการแบ่งรุ่นน้ำหนักในกีฬาซูโม่ คุณมักจะได้เห็นนักซูโม่ที่ดูเหมือนจะจับคู่ผิดมาประลองกัน แต่เดี๋ยวคุณจะได้เรียนรู้ว่าชัยชนะนั้นขึ้นอยู่กับเทคนิคมากกว่าขนาดตัว
คุณสามารถไปที่นั่นได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ตอน 10 โมงเช้าเพื่อชมการแข่งขันระดับมือสมัครเล่น แต่การแข่งขันจะเริ่มมีอรรถรสตั้งแต่ช่วงบ่าย 2 โมงเมื่อนักมวยปล้ำที่มีประสบการณ์และนักมวยปล้ำระดับหัวแถว โยโกสึนะ เริ่มการประลอง ถ้าหากคุณต้องการดูกีฬาน่าทึ่งชนิดนี้แบบพอเป็นกระสัยล่ะก็ คุณควรจะไปถึงที่นั่นในช่วงเวลาดังกล่าว
สิ่งหนึ่งที่คุณต้องลองถ้าคุณมาเยือนที่นี่ก็คือจังโกะ-นาเบะที่โรงอาหารในชั้นใต้ดิน สตูว์ซูโม่ตำรับดั้งเดิมนี้ขายไม่แพงและอุดมไปด้วยโปรตีน มีเนื้อไก่ ผัก และปลา แต่ว่ามันเป็นสูตรอาหารที่ไม่ตายตัวและทำออกมาได้หลายแบบขึ้นอยู่กับว่าเชฟมีวัตถุดิบอะไรอยู่ มันเป็นโรงอาหารแบบเรียบง่าย มีโต๊ะและเก้าอี้อยู่เพียงไม่กี่ตัว และคุณไม่จำเป็นต้องจองโต๊ะล่วงหน้า
โคคุกิคังเป็นสถานที่ที่คุ้มค่าสำหรับการใช้เวลาหนึ่งวันในโตเกียว แต่ผมมีคำเตือนอย่างหนึ่งมาฝากคุณตอนเดินออกจากสนาม ระวังตัวคุณไว้ให้ดีเพราะนักซูโม่ที่กำลังเดินออกมาจะไม่ยอมชะลอให้แน่ ๆ ถ้าคุณไปขวางทางพวกเขา