เราเริ่มต้นไม่ค่อยสวยเท่าไหร่เนื่องจากไม่ได้วางแผนล่วงหน้า แต่ในความโชคร้ายยังมีความน่าประทับใจแฝงอยู่เพียบครับ เรามาถึงที่ฮอกไกโดตอนดึกมากแล้ว และผมก็พึ่งรู้ว่าสนามบินที่นั่นไม่เหมือนบ้านเราตรงที่ไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมง ครั้นจะออกเดินทางไปเมืองแรกที่ Hakodate ก็ดูเหมือนจะดึกเกินไปจริงๆ ที่พักก็ยังไม่ได้หาเอาไว้ เราจึงตัดสินใจพักในที่พักของสนามบินและใช้เวลาวันแรกเดินเที่ยวรอบๆสนามบินกัน ที่น่าแปลกใจก็คือเราสนุกกับมันมาก ที่พักของสนามบินถือว่าหรูหราผิดกับที่ผมคิดไว้ตอนแรกเลยทีเดียว ภายในอาคารโดยสารของสนามบินของฮอกไกโดมีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ผังการเดินเข้าใจได้ง่าย มีกิจกรรมครบทุกอย่างตั้งแต่ร้านอาหาร ร้านค้า พิพิธภัณฑ์การ์ตูน ตู้เกมส์ และที่พักของสนามบินซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย
หลังจากที่พวกเราเดินชมกันทั่ว หาของกินจนอิ่มท้องสบายพุงเป็นที่เรียบร้อย ก็เดินไปเช็คอินเข้าที่พักของสนามบินในราคาคนละ 3,000 เยน แต่เมื่อเจอกับที่พักก็ต้องบอกเลยครับว่าเซอร์ไพรส์ตั้งแต่ภาพแรกที่เห็น สนามบินทันสมัยที่ประดับประดาด้วยไฟสว่างจ้ากับอุปกรณ์ไฮเทค แต่ที่พักของสนามบินนั้นกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง สถานที่ถูกจำลองเป็นเหมือนเรียวกัง(ที่พักสไตล์ญี่ปุ่นย้อนยุค) พื้นและตัวที่พักทั้งหมดทำจากไม้และไม้ไผ่ของจริง พนักงานทุกคนก็ใส่ชุดพนักงานต้อนรับแบบญี่ปุ่นสมัยเก่า ผู้ชายแต่งเหมือนซามูไร ผู้หญิงใส่กิโมโน ผมต้องขอชื่นชมจุดนี้เลยว่าคนญี่ปุ่นเค้าสามารถถ่ายทอดวัฒนธรรมเค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ ไม่รู้สึกเหมือนโดนหลอกให้ย้อนยุคแต่อย่างใด
ด้านในที่พักสามารถทำออกมาได้บรรยากาศถึงการพักผ่อนอย่างลงตัว ผมรู้สึกง่วงตั้งแต่เท้าได้สัมผัสพื้นไม้อุ่นๆ กลิ่นชาเขียวที่ฟุ้งอบอวล และเสียงเพลงบรรเลงสไตล์ญี่ปุ่น ด้านในโซนห้องแต่งตัวมีอุปกรณ์เครื่องใช้ให้เราแบบครบครันอย่างที่พนักงานต้อนรับบอกเลยครับ เราไม่จำเป็นต้องเอาอะไรเข้ามาเลย มีให้หมดตั้งแต่แชมพู ครีมบำรุงผิว แปรงสีฟัน ยันชุดนอน ความประทับใจลำดับต่อมาคือบ่อแช่น้ำร้อน ออนเซ็น (Onsen) มีทั้งแบบ Indoor&Outdoor พวกเราตื่นเต้นมากครับเนื่องจากไม่เคยแช่มาก่อนในชีวิต ในส่วนของห้องพักเป็นห้องรวมใหญ่ มีเก้าอี้โซฟาแบบเอนได้วางเรียงกันเป็นตับ ทุกตัวเป็นระบบออโตเมติกแบบครบเครื่อง สามารถดูทีวี ชาร์จโทรศัพท์ เช็คตารางเที่ยวบินได้ ถ้าถามว่าผมประทับใจอะไรที่สุดสำหรับวันแรกที่ฮอกไกโด ต้องขอตอบว่าการอาบน้ำเปลือยร่วมกันของคนญี่ปุ่นนี่แหละครับ (แยกชายหญิงนะครับ) กว่าจะตัดสินใจเข้าไปอาบน้ำกันได้ เครียดยิ่งกว่าเล่นรถไฟเหาะอีก
