"นั่นมันอะไรกัน...?" นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด เมื่อวิวของถนนที่มีหิมะปกคลุม ถูกขัดจังหวะด้วยภาพของรูปปั้นหินโมไอ ที่ยืนเรียงแถวกันอยู่ในระยะไกล ในขณะที่ฉันอยู่บนรถเมล์มุ่งหน้าไปยัง Takino Snow World เพื่อไปเล่น Snow Shoe ฉันไม่ได้คาดคิดว่าจะได้พบกับรูปปั้นหินที่ฉันชื่นชอบ ในระหว่างการเดินทางในซัปโปโร จากการค้นหาบนอินเทอร์เน็ตด้วยคำเพียงสองคำ ‘โมไอ’ และ ‘ซัปโปโร’ ก็นำมาสู่สุสาน Makomonai Takino (真駒内滝野霊園Makomanai Takino Reien) สุสานที่อยู่โดดเดี่ยวห่างไกล และมีรูปปั้นหินโมไอ นั่นได้กระตุ้นความสนใจของฉัน แต่น่าเศร้าที่ฉันกำลังจะออกจากเมืองในวันถัดไป
สุสาน Makomonai Takino ก่อตั้งขึ้นในปี 1982 มีเนื้อที่ทั้งหมด 1,800,473 ตารางเมตร และเปิดให้เข้าชมตลอดปี โดยมีบริการรถรับส่งฟรีจากสถานี Makomanai และค่าเข้าชมก็ฟรีเช่นกัน
สุสาน Makomonai Takino ภาคสอง สองปีต่อมาเมื่อฉันไปชมเทศกาลหิมะที่ซัปโปโรอีกครั้ง ฉันจึงตั้งใจที่จะแวะชมสุสาน ในวันที่ฉันไปมีหิมะหยุดๆ ตกๆ และเมื่อฉันไปถึง ก็มีแต่ฉันเข้าชมอยู่คนเดียว ฉันรู้ได้ทันทีว่ารูปปั้นหินโมไอ ไม่ใช่ของแท้ แต่ก็มีอยู่มากมาย ลองเดาดูสิว่ามีอะไรอยู่ตรงข้ามกับรูปปั้นหินโมไอ? กลุ่มหินสโตนเฮนจ์ (Stonehenge) และพระพุทธรูปองค์ใหญ่ (เป็นวิธีที่ดีในการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง) แต่น่าเสียดายที่มีการก่อสร้างอยู่รอบๆ ฉันจึงไม่สามารถเข้าถึงได้ แล้วหิมะก็เริ่มตกหนัก และไม่มีที่สำหรับหลบหิมะ แต่โชคดีที่ผู้ดูแลสุสานเสนอพาฉันไปส่งที่ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว ที่ฉันสามารถรออยู่ที่นั่นจนกว่าสภาพอากาศจะดีขึ้น จากที่นั่นฉันได้เห็นแผ่นหินจารึกหน้าหลุมฝังศพยืนเด่นเหนือทุ่งหิมะ
สุสาน Makomonai Takino ภาคสาม สุสานยังคงอยู่ในใจของฉันตลอดมา และอีกสองปีผ่านไป ฉันก็พบตัวเองอยู่ที่ซัปโปโรอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นช่วงฤดูร้อน และมีแค่ฝนตกปรอยๆ เท่านั้น ในที่สุดฉันก็สามารถเข้าไปดูสถานที่แปลกๆ แห่งนี้ และพบว่ามีสิ่งประดิษฐ์ที่น่าสนใจอื่นๆ อยู่ด้วย สุสานเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมกลางแจ้ง ฉันสังเกตุเห็นว่ามีการเคลียร์พื้นที่ขนาดใหญ่ "สำหรับอะไรอีก? พื้นที่สำหรับหลุมฝังศพแปลงใหม่ หรือบางทีอาจจะเป็นพีระมิดขั้นบันไดแห่งซักการา (Saqqara) " ฉันคิดคำนึง