ฮากาตะ กิออน ยามากาสะ คือ งานเทศกาลชื่อดังของเมืองฟุกุโอกะ ซึ่งหากคุณอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคมหรือกำลังวางแผนไปเที่ยวเมืองฟุกุโอกะ ฉันแนะนำให้คุณใช้เวลาของคุณมาร่วมเป็นสักขีพยานและดื่มด่ำไปกับ ‘มัทสึริ’ เทศกาลสุดวิเศษที่มีประวัติยาวนานกว่า 750 ปีของเมืองนี้
เทศกาลเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่นี้ มีต้นกำเนิดมาจากการที่พระ โชอิจิ โกคุชิ ต้องการปัดเป่าโรคระบาดร้ายแรงในยุคนั้นโดยการราดน้ำมนต์ลงไปบนท้องถนน จนกลายเป็นประเพณีสืบต่อกันมาจนถึงยุคปัจจุบัน
ฉันขอเตือนก่อนว่า เทศกาลนี้ ไม่ค่อยเหมาะสำหรับคนขี้เซาเท่าใดนัก เนื่องจากความยิ่งใหญ่ฮึกเหิมของงานเทศกาลเริ่มตั้งแต่พระอาทิตย์เริ่มฉายแสงส่องฟากฟ้า หรือเวลาประมาณ 4.59 นาฬิกา แต่อย่างไรก็ตาม การเตรียมการต่างๆมีให้เห็นหลายอาทิตย์ก่อนหน้า ทั้ง ‘คาซาริยามะ’ เสรี่ยงประดับตกแต่งที่ถูกจัดแสดงอย่างสวยงามตามสถานที่ต่างๆของเมือง หรือกลุ่มชายในชุดพื้นเมือง ที่ฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับงานเทศกาลที่จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคม รวมถึงขบวนแห่อันยิ่งใหญ่ที่จะจัดขึ้นตั้งแต่เช้าของวันที่ 15 กรกฎาคม
และเพื่อเข้าถึงจิตวิญญาณแห่งความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ฉันขอแนะนำให้คุณเช่าห้องพักใน ‘อิซากายะ’ หรือร้านเหล้าแบบญี่ปุ่น เพื่อชมงานเทศกาลแบบใกล้ชิด โดยตัวฉันเองนั้น เดินทางไปร่วมงานปาร์ตี้ก่อนเทศกาลมัทสึริจะเริ่มขึ้นที่บาร์ Roosta ซึ่งในเวลา 3 นาฬิกาของวันนั้น ฉันและเพื่อนได้ชมเทศกาลสุดงดงามอย่างชัดเจนจากชั้นบนของบาร์นั่นเอง เพื่อนของฉันตั้งชื่อเล่นให้เทศกาลนี้ว่า ‘เทศกาลโชว์สะโพก’ เนื่องจากชายชาวฟุกุโอกะมากมายแต่งกายในชุดพื้นเมืองที่เรียกว่า ‘ชิเมโคมิ’ หรือผ้าเตี่ยว หากดูจากชื่อแล้ว แน่นอนว่าพวกเรามีโอกาสได้เห็นสะโพกมนๆและก้นขาวๆของชายหลายคน หลากอายุ นอกจากนั้นชายทุกคน ตั้งแต่ผู้อาวุโสที่ทำหน้าที่คุมขบวนไปจนถึงผู้ที่ทำหน้าที่แบกเสรี่ยง ยังใส่รองเท้าหนีบและคาดผ้าที่ศีรษะเพื่อแสดงถึงความแน่วแน่มั่นคงในการเดินขบวนแห่ของพวกเขาอีกด้วย
กิจกรรมหลักของเทศกาลนี้ คือ ขบวนแห่ ชายหลายร้อยคนจาก 7 อำเภอของเมืองฟุกุโอกะจะรับหน้าที่แบกเสรี่ยงที่มีน้ำหนักมากถึง 1 ตัน เดินไปตามถนนใกล้สถานีรถไฟฟ้า JR คิวชู ฮากาตะ เป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร โดยต้องไม่ลืมว่า เสรี่ยงที่ถูกแบกไปนั้นไม่มีล้อช่วยทุ่นแรงใดๆ! และด้วยน้ำหนักมหาศาลของเสรี่ยงนี้เอง ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนกะของผู้แบก จนเกิดระรอกคลื่นมนุษย์ที่เกิดจากการสลับตำแหน่งไปตลอดเส้นทาง ซึ่งเหล่าชายที่แบกเสรี่ยงนั้น ต้องรักษาความเร็วและความมั่นคงโดยไม่แสดงความอ่อนแอใดๆออกมาให้เห็น นอกจากขบวนแห่ที่สวยงามแข็งแรงแล้ว เทศกาลนี้ยังทำให้เกิดการรวมตัวกันของผู้คนในชุมชนทุกเพศทุกวัย คุณจะเห็นเด็กๆหลายร้อยคนวิ่งเคียงคู่ไปกับเสรี่ยงและผู้ร่วมขบวน ถือเป็นการฝึกซ้อมตั้งแต่เล็กๆ เพื่ออีก 10 หรือ 20 ปีข้างหน้า พวกเขาจะได้เข้ามาแบกรับน้ำหนักนั้นบนไหล่ของพวกเขาบ้าง
ขบวนแห่เริ่มต้นที่ศาลเจ้า คูชิดะ ดังนั้นถ้าหากคุณยืนรับชมขบวนแห่ ณ จุดเดิม คุณจะได้เห็นเสรี่ยงทุกๆ 5-10 นาทีอย่างแน่นอน นอกจากนั้นคุณยังจะได้ยินเสียง ‘โออิซะ โออิซะ’ อย่างพร้อมเพรียงจากผู้เข้าร่วมขบวนแห่ ในขณะที่ผู้ชมและผู้เข้าร่วมโดยรอบจะสาดน้ำเข้ามาที่ถนนเพื่อปลุกใจและให้กำลังใจเหล่าชายที่กำลังทำงานหนักให้มีกำลังพาเสรี่ยงเคลื่อนที่ต่อไป
การถูกโยนเข้าไปปะปนกับฝูงชน และถูกห้อมล้อมไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมประเพณีเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น ทำให้เทศกาล ฮากาตะ กิออน ยามากาสะ เป็นหนึ่งในประสบการณ์สุดประทับใจของฉันที่นี่...ที่ดินแดนอาทิตย์อุทัย