ปลาหมึกหิ่งห้อยแห่งนาเมะริกะวะ

ร่วมสัมผัสหนึ่งในสมบัติล้ำค่าแห่งโทยามะ

ในเวลาตีสองครึ่งของวันเช้าวันจันทร์ ในช่วงต้นของฤดูใบไม้ผลิ แทนที่ฉันจะนอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มบนเตียงนอนนุ่มสบาย รอคอยการมาถึงของสัปดาห์การทำงาน ฉันกลับมุ่งหน้าเข้าไปในความมืด ไปยังเรือที่จะนำฉันออกจากชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นในเมืองนาเมะริกะวะในคืนนี้

ฉันเดินทางร่วมกับผู้ร่วมทางอีก 40 คน สวมใส่เสื้อชูชีพสีส้ม ตรวจสอบให้มั่นใจว่าหมวกสีแดงปลอดภัยอยู่ที่ศีรษะของฉัน และเตรียมพร้อมที่จะได้ชมหนึ่งในปรากฏการณ์มหัศจรรย์ของญี่ปุ่นตะวันตก สิ่งที่อยู่ลึกล้ำลงไปในทะเลกว้างใหญ่สีดำ... ホタルイカ หรือปลาหมึกหิ่งห้อย กำลังส่องแสงสว่างสีน้ำเงินรอคอยฉันอยู่ในค่ำคืนนี้

โฮตารุอิกะคือปลาหมึกที่กำเนิดมาพร้อมกับแสงฟลูออเรสเซนส์ตามธรรมชาติที่ทำให้พวกมันเติบโตในความมืดมิดได้ (สีสันของมันเปรียบไปแล้วคล้ายสีฟ้าของแสงไฟนีออน)  ฤดูกาลแห่งการผสมพันธุ์ของพวกมันเริ่มต้นตั้งแต่เดือนมีนาคมไปจนถึงต้นเดือนมิถุนายน และเมืองนาเมะริกะวะ ซึ่งถือว่าเป็นบ้านเกิดของปลาหมึกหิ่งห้อยและมีพิพิธภัณฑ์ปลาหมึกหิ่งห้อยเพียงแห่งเดียวในโลก ก็ได้จัดเรือนำเที่ยวซึ่งจะพานักท่องเที่ยวไปชมปลาหมึกเหล่านี้กันอย่างใกล้ชิด และยังจะได้กินพวกมันแบบสด ๆ ท่ามกลางท้องทะเลอีกด้วย  เหล่าปลาหมึกจะถูกจับในฤดูกาลที่ว่านี้และจะกลายเป็นอาหารราคาแพงของโทยามะในช่วงฤดูใบไม้ผลิต่อไป

หลังจากการล่องเรือออกทะเลราว 20 นาที เราก็หยุดอยู่ที่สมอเรือที่ซึ่งชาวประมงได้เตรียมตาข่ายไว้สำหรับจับโฮตารุอิกะ ใจกลางความมืดนั้นนกนางนวลมากมายพากันบินมาห้อมล้อมตาข่าย ส่งเสียงร้องแหลมสูงด้วยความยินดีปรีดาพร้อมกับรุมกินโฮตารุอิกะเท่าที่จะกินได้  เมื่อพวกมันคาบปลาหมึกไว้ในปาก เราจะมองเห็นแสงสีน้ำเงินสว่างวาบออกมาจากตัวปลาหมึกในวาระสุดท้ายของชีวิต  หลังจาก 10 นาทีแห่งการรอคอย แสงสว่างรอบ ๆ ตัวเราก็ดับลง ชาวประมงก็จะเขย่าตาข่ายใหญ่เพื่อเป็นการกระตุ้นให้โฮตารุอิกะส่องแสงออกมาในความมืดมิด ถึงเวลานั้น ทะเลจะมองดูคล้ายกับสัญลักษณ์สีนีออนบนถนนกว่าร้อยกิโลเมตรในโตเกียว  เหล่าปลาหมึกจะพากันดิ้นไปดิ้นมา พยายามต่อสู้เพื่อจะเป็นอิสระ ชาวประมงบางคนที่ใช้ตาข่ายเล็ก ๆ ในการจับจะโยนโฮตารุอิกะขึ้นไปในอากาศ ในเวลานั้นปลาหมึกจะเปล่งแสงสีเข้มออกมาอย่างเต็มที่ มองดูราวกับพลุในท้องฟ้า

ท่ามกลางความตื่นเต้นและเสียงปรบมือจากผู้โดยสารทุกคนในเรือ ในช่วงสุดท้ายชาวประมงก็ได้โบกมือลาพวกเราไป  เราแยกทางกันเพื่อจะเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป เรือลำที่สองชาวประมงในเรือก็จะทำอย่างเดิมคือโยนโฮตารุอิกะขึ้น หลังจากนั้นจึงจะลำเลียงพวกมันเข้ามาไว้ในตะกร้าขนาดใหญ่ภายในเรือ  ถึงตอนนี้เขาก็จะย่างเจ้าปลาหมึกสด ๆ ด้วยไฟกลางแจ้งภายในเรือแล้วแจกจ่ายให้แก่พวกเราที่อยู่ในเรือนั้น  ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นก็ถึงเวลาต้องโบกมือลาอีกครั้ง ได้เวลากลับขึ้นฝั่งแล้ว

แสงสว่างของเมืองที่อยู่เบื้องหน้าเรานี้ทำให้เมืองนาเมะริกะวะ เมืองชายทะเลซึ่งมีผู้คนอยู่อาศัยราว 30,000 คนนี้ มองดูไปแล้วคล้ายกับเมืองใหญ่  ขณะที่เบื้องหลังเรา แสงที่ปรากฏให้เราเห็นมีเพียงแสงสีน้ำเงินจาง ๆ ของบรรดาโฮตารุอิกะเหล่านั้น  ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นประสบการณ์ที่พิเศษที่สุดของฉันในดินแดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้

เรือนำเที่ยวซึ่งมีค่าบริการ 4,500 เยน ไม่มีบริการแล้วสำหรับปีนี้ พวกเขามักจะขายตั๋วหมดอย่างรวดเร็วเสมอ เพราะฉะนั้นหากคุณอยากได้ประสบการณ์สุดพิเศษเช่นฉันคุณควรจะรีบจองตั๋วเรือสำหรับปีหน้าไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ  สำหรับข้อมูลการท่องเที่ยวที่มากกว่านี้ เข้าไปติดตามกันได้ที่เว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์โฮตารุอิกะ 

0
0
บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่
ช่วยเราพัฒนาเว็ปไซต์ JapanTravel.com
ให้คำติชมหรือข้อเสนอแนะ

แสดงความคิดเห็น

Thank you for your support!

Your feedback has been sent.