มาถึงญี่ปุ่นถ้าไม่ได้แก้ผ้าลงไปแช่น้ำร้อนแบบชาวญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า "ออนเซน" อาจจะนับว่ายังไม่ได้สัมผัสทุกรสชาติของประเทศญี่ปุ่น การแช่ออนเซนในช่วงที่อากาศหนาวเย็นช่วยทำให้คลายความหนาวและบรรเทาความเหนื่อยล้าจากการเดินทางได้เป็นอย่างดี คำถามหนึ่งที่ผมสงสัยมาตลอดก็คือในช่วงอากาศร้อนๆชาวญี่ปุ่นเค้าจะยังแช่น้ำร้อนๆกันอีกไหม มาหาคำตอบด้วยกันที่ "หมู่บ้านอาริมะออนเซน" (Arima Onsen) อีกหนึ่งหมู่บ้านออนเซนชื่อดังใกล้เมืองโกเบ
หมู่บ้านอาริมะออนเซน เป็นหมู่บ้านที่อยู่อีกฟากฝั่งหนึ่งของเทือกเขารอคโคะ ไม่ไกลจากตัวเมืองโกเบ ด้วยน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงกับทำเลที่ตั้งสะดวก แบบจะมาเช้าเย็นกลับทั้งจากเมืองโกเบหรือโอซาก้าเองกก็ทำได้ ทำให้หมู่บ้านนี้จัดเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเอง การเที่ยวชมรอบหมู่บ้านสามารถทำได้โดยการเดิน ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงก็เรียกได้ว่าสำรวจได้ครบทั้งหมู่บ้านแล้ว
บรรยากาศโดยทั่วไปในหมู่บ้านค่อนข้างจะครึกครื้น ตึกรามบ้านช่องแบบสมัยเก่ามีให้เห็นบ้าง แต่ภาพของร้านรวงสมัยใหม่ก็มีปะปนอยู่มากมาย นอกจากนั้นที่น่าสนใจคือ บ่อน้ำ Tansan-sengen ซึ่งเป็นบ่อน้ำเย็นที่มี Carbondioxide ผสมอยู่ ซึ่งชาวบ้านนิยมใช้ไปผสมกับน้ำตาลเพื่อทำเป็นโซดา และเป็นที่มาของขนมเลื่องชื่อของหมู่บ้านนี้อย่าง "Tansan Senbei" ด้วย ใครลองเปิดก๊อกชิมน้ำที่ต่อตรงจะบ่อน้ำนี้ดูก็จะรู้สึกได้ถึงความซ่าและเฝื่อนของน้ำที่มีอยู่ (อยากจะหยิบเหล้ามานั่งก๊งก็ดูที่ทางดีๆละกันนะครับ)
แล้วก็มาถึงของดีของเด่นประจำหมู่บ้าน แน่นอนก็คือบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาตินี่เอง ที่โด่งดังและขึ้นชื่อที่สุดคงจะเป็น บ่อน้ำแร่ Kin-no-Yu กับ Gin-no-Yu นั้นเอง Kin-no-Yu จะเป็นบ่อน้ำแร่สีทองที่มีส่วนผสมของธาตุเหล็กสูงมีสรรพคุณลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ โรคไขข้อ ในขณะที่ Gin-no-Yu จะเป็นบ่อน้ำแร่ใสมีส่วนผสมของคาร์บอนิกและเรเดียม (Carbonic and Radium) มีสรรพคุณช่วยบำรุงระบบย่อยอาหาร ภาวะเส้นเลือดอุดตัน ถ้าใครสนใจจะแช่ทั้ง 2 บ่อสามารถซื้อตั๋วแบบรวม 2 บ่อในราคาพิเศษอีกด้วย นอกจากนี้ที่หน้าบ่อน้ำร้อน Kin-no-Yu ยังมีบ่อแช่เท้าสีทองให้บริการฟรีสำหรับคนที่มาเยี่ยมชมหมู่บ้านอาริมะออนเซนอีกด้วย
มีเรื่องเล่ากันว่าในสมัยโบราณผู้คนมากมายหลั่งไหลกันมาที่หมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้เพื่อต้องการแช่ตัวรักษาในบ่อพุร้อนของหมู่บ้าน เมื่อพอได้สัมผัสกับสรรพคุณการรักษาของบ่อพุร้อนแล้วนั้น อาการเจ็บปวดดังกล่าวกลับหายไปเป็นปลิดทิ้ง จนสามารถโยนไม้เท้าช่วยเดินทิ้งไปได้เลย จนเกิดการสร้างเป็นสะพาน "Tsuesute" ซึ่งแปลตามภาษาได้ว่า โยนไม้เท้าช่วยเดินทิ้งไป ที่นี่ก็รู้กันซะทีว่าคนญี่ปุ่นเค้าแช่ออนเซนกันหน้าร้อนหรือเปล่า จะฝนตกแดดออกเค้าก็แช่ออนเซนกันตลอด เพราะเค้าไม่ได้แช่กันเล่นๆ แต่แช่กันเพื่อสุขภาพ
ข้อมูลเพิ่มเติม
การเดินทาง
- รถไฟ: จากสถานี Shin-Kobe มาลงที่สถานี Arimaonsen ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที
- Cable car และรถบัส : นั่ง Cable Car เข้าภูเขา Rokko และ เดินทางต่อด้วยรถบัสมาถึง หมู่บ้าน Arimaonsen
วันเวลาเปิดและค่าบริการ
- บ่อ Kin-no-yu เปิดบริการ 8.00-22.00 ปิดบริการทุกวันอังคารที่ 2 และ 4 ของเดือน ค่าบริการ 650 เยน
- บ่อ Gin-no-yu เปิดบริการ 9.00-21.00 ปิดบริการทุกวันอังคารที่ 1 และ 4 ของเดือน ค่าบริการ 550 เยน
- ซื้อตั๋วแบบรวม 2 บ่อ Kin-no-Yu และ Gin-no-Yu ในราคา 1000 เยน ได้ที่ทั้ง 2 บ่อ
