ในที่สุดถนนแคบๆ สายนั้นก็เคลื่อนตัวดิ่งลงมาใต้ก้อมเมฆ เข้าสู่เขตป่าต้นบีชที่ยังมีใบไม้ของฤดูใบไม้ร่วงอยู่ประปราย จากนั้นถนนสายนั้นยังตรงดิ่งลึกลงไปในหุบเขา แล่นเลียบริมแม่น้ำไปยังดินแดนแห่งศิวิไลซ์เล็กๆ หนึ่งเดียวในหุบเขาแห่งนี้ ออนเซ็นโนะเซะกะวะ (Nosegawa)
ออนเซ็นโนะเซะกะวะ (Nosegawa)
ความคิดที่จะหันหลังให้กับวิถีชีวิตประจำวันที่เร่งรีบไปเสียหมด เร่งรีบไปยังจุดนัดพบ หมายกำหนดส่งงาน และตารางเวลา ความคิดเช่นนั้นมันอาจจะยากไปสักนิด อาจจะเปรียบได้กับความคิดในการเดินทางไปยังดวงจันทร์เลยที่เดียว การเดินทางออกไปให้ไกลที่สุด ไปสู่อ้อมกอดของธรรมชาติ ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ และการตัดขาดจากโลกภายนอก แต่ยังไม่ทิ้งความสะดวกสบาย ออนเซ็นโนะเซะกะวะ (Nosegawa) นำเสนอการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านที่ไกลโพ้นในหุบเขาลึก 'หมู่บ้านโนะเซะกะวะ' ที่มีประชากรเพียง 500 คน และห่างไกลเสียจนไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะมีสัญญานโทรศัพท์มือถือ แต่สามรถรับประกันได้ว่า แขกที่พักอยู่ที่นี่จะได้รับบริการที่สะดวกสบาย ห้องพักที่ตกแต่งด้วยไม้แบบญี่ปุ่น ดูอบอุ่นน่าอยู่ และที่นอนฟูกหนานุ่มทำให้นอนหลับสบาย
สำหรับช่วงฤดูร้อน ที่ออนเซ็นยังมีที่พักแบบบังกะโล เป็นบังกะโลสี่หลังที่ตั้งอยู่บนเขาตรงกันข้ามกับอาคารหลักของออนเซ็น นอกจากนี้ยังมีลานการเต้นท์และที่แคมป์ปิ้ง เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าพักได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น แขกทุกท่านสามารถเข้าใช้บริการเมนูอาหารอร่อยเลิศจากในครัวของออนเซ็นโนะเซะกะวะ อาหารชุดไคเซะคิ (kaiseki ) แบบดั้งเดิมที่ผมรับประทาน จัดได้ว่าเป็นอาหารชุดที่ตกแต่งพิถีพิถันและสวยงามที่สุด เท่าที่ผมพบเจอมาในประเทศญี่ปุ่น ซาชิมิปลาอะมะโกะ (ปลาเทราต์ญี่ปุ่น) ที่มากับชุดอาหารนี้ ก็จัดได้ว่าสดที่สุดเท่าที่ผมเคยทานมา การได้อาบน้ำหลังอาหารเย็น ในห้องออนเซ็นที่มีวิวแม่น้ำ จัดได้ว่าเป็นการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ
การเดินทาง
ออนเซ็นโนะเซะกะวะ (Nosegawa) มีบริการรับส่งแขกจากสถานีโคะยะซาน (Koyasan) เนื่องจากไม่มีรถไฟสายใดที่วิ่งใกล้บริเวณโรงแรม และรถเมล์ก็ค่อนข้างจำกัด การเที่ยวชมบริเวณโดยรอบจากออนเซ็นสามารถทำได้โดยทางรถยนต์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมตกปลาในแม่น้ำ และการเดินป่าบนเส้นทางแสวงบุญไปยังวัดต่างๆ ของโคะยะซาน (Koyasan)
