โรงแรมแอนเตรูม เกียวโตเกิดขึ้นเมื่อศิลปินกลุ่มหัวก้าวหน้าของเกียวโตและเบอร์ลินเกิดความรู้สึกรักเด็กขึ้นมา ครึ่งหนึ่งของโรงแรมเป็นห้องปฏิบัติงานศิลปะและอีกครึ่งหนึ่งเป็นพื้นที่ระดมความคิดแต่ทั้ง 100% ออกแบบมาเพื่อสร้างชุมชนและและความคิดสร้างสรรค์ อย่างที่ชื่อโรงแรมบอกคือ แอนเตรูมซึ่งหมายความว่าคุณต้องนั่งคอยเพื่อเตรียมตัวก่อนเข้าโรงหนังและแกลเลอรี่ที่เปิดโล่งซึ่งนั่นก็คือเกียวโต
ศิลปะเป็นหัวใจหลักของโรงแรมแห่งนี้ คุณจะได้เห็นแกลเลอรี่ในล็อบบี้ตั้งแต่ย่างก้าวเข้าไปข้างใน หัวใจของคุณจะเต้นเป็นจังหวะก่อนจะเดินไปทักทายพนักงานต้อนรับ นิทรรศการส่วนใหญ่ในแกลเลอรี่ 9.5 เกี่ยวข้องกับเกียวโตไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเช่นศิลปินจากเกียวโต
เมื่อไม่นานมานี้มีการจัดนิทรรศการของยูสุโตะ ซาซาดะ ศิลปินชาวญี่ปุ่นผู้ที่ผสมกราฟิกของตัวละครญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมกับโครงสร้างไปในภาพวาดและประติมากรรมของเขาโดยใช้ปากกาลูกลื่นหัว 0.3 มม. สร้างสรรค์ผลงานให้มีชีวิตได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผู้คนสามารถเข้าชมได้ฟรีและอาจจะมีโอกาสที่จะได้ซื้อผลงานศิลปะเหล่านี้ด้วย งานศิลปะเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะของเมืองและช่วยให้คุณเข้าใจและรู้สึกถึงความเป็นส่วนหนึ่งของเมืองแม้ว่าคุณจะมาอยู่แค่สั้นๆก็ตาม
โรงแรมมีความเชื่อว่าศิละไม่ควรถูกจำกัดอยู่แค่ในแกลเลอรี่และแม้แต่แค่ในห้องพักแขก พวกเขาจึงจัดให้มีศิลปะอยู่ทั่วทุกมุม คุณจะสังเกตุเห็นศิลปะทั้งหมดอยู่ในเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่ง
แสงสว่างและพื้นที่ใช้สอยเป็นตราของโรงแรมและห้องพักที่นี่ โทนสีที่ใช้ตกแต่งเป็นสีโทนกลางๆเบาๆต่อสายตา ห้องพักที่กว้างที่สุดคือ ห้องพักเตียงคู่มาพร้อมกับระเบียงขนาด 30 ตารางเมตร โดยระเบียงไม้ดาดฟ้าส่วนตัวกินพื้นที่ไป 20 ตารางเมตร ในขณะเดียวกันมีพื้นที่เหนือระเบียงของคุณ เช่น พื้นที่กลางแจ้งกว้างขวางที่หาได้ยากในหมู่โรงแรมในเกียวโต ความรู้สึกของพื้นที่ขยายไปในห้องน้ำมีขนาดใหญ่พอสำหรับคนสองคนหากต้องใช้ห้องน้ำในเวลาเดียวกัน ส่วนห้องสุขาจะแยกต่างหากออกจากพื้นที่อาบน้ำ
เฟอร์นิเจอร์ชวนรำลึกถึงโรงเรียนของการออกแบบ Bauhaus ทุกชิ้นสามารถนำไปใช้ได้จริงและยังหรูหราและเรียบง่าย มีสไตล์ โซฟาหนังคู่กับโต๊ะน้ำชาไม้ช่วยสร้างพื้นที่นั่งเล่นที่แสนอบอุ่นแยกต่างหากออกไปจากเตียงและประตูทางเข้า ส่วนของโรงแรมใช้ธีมอุตสาหกรรมเยอรมันตลอดทั้งตัวโรงแรมโดยใช้ท่อเปลือยบนในเพดานและพื้นคอนกรีตในพื้นที่สาธารณะซึ่งทำให้ดูเก๋และดิบมากขึ้น
ห้องเดี่ยวมีพื้นที่ 15 ตารางเมตร มีการติดตั้งเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ ห้องมีลักษณะเป็นแบบหนึ่งในประเภทที่ร้านกาแฟใช้คือ เป็นเก้าอี้หนังพร้อมกับโต๊ะไม้เล็กๆและห้องน้ำ นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบของศิลปะอยู่ในทุกส่วนของห้องพัก ไม่ได้มีเพียงแต่ในภาพวาดแต่มีอยู่ในของตกแต่งด้วย เหมือนกับแกลเลอรี่ 8.8 ที่เชื่อมต่อกับนิทรรศการที่ผ่านมาที่จัดขึ้นที่แกลเลอรี่ 9.5 เลข 8.8 หมายถึงความไม่มีขอบเขตและสะท้อนให้เห็นถึงวิธีการหลายๆวิธีที่สามารถตีความงานศิลปะได้ การเข้าพักในโรงแรมแห่งนี้ทำให้รู้สึกถึงพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุดของงานศิลปะที่คุณจะพบมันได้ทุกๆที่ในโรงแรม
ความสุขที่ไม่คาดคิดและมีอยู่มากมายในโรงแรมบูติคแห่งนี้นั้นมาจากผู้ที่สร้างสรรค์ผลงานและสร้างการเชื่อมต่อตั้งแต่ศิลปินจนถึงนักออกแบบภายใน โต๊ะอาหารเช้านั่งรวมหยาบๆและเลาจ์ที่เต็มไปด้วยหนังสือเกี่ยวกับแรงบันดาลใจ ที่นี่เป็นเหมือนโรงแรมที่ถูกออกแบบมาสำหรับชุมชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เข้าพักระยะยาว ค่าธรรมเนียมห้องพักได้รวม WiFi ฟรีในล็อบบี้และห้องพักเอาไว้แล้ว และแน่นอนว่าคุณอาจจะใส่เสื้อผ้าซ้ำมากกว่า 1 คืนดังนั้นที่นี่จึงมีบริการเครื่องซักผ้าในพื้นที่ซักรีดซึ่งมีอัตราค่าบริการดีมากๆ ที่นี่ยังมีจักรยานให้เช่าและฟรี 2 ชั่วโมงซึ่งอาจจดูเหมือนนานแต่ในความเป็นจริงก็ไปได้เพียงแค่ชิมโรงเหล้าสาเกในฟุชิมิหรือร้านขายของโบราณที่ชินมอนเซนและถนนฟุรุมอนเซนเท่านั้นเอง
ควรจะเสียใจไหมหากต้องออกจากโรงแรมไปมือเปล่า? คุณสามารถซื้อทุกอย่างที่ไม่ได้ติดอยู่บนผนังได้ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์เดิมๆจนถึงงานศิลปะหลายๆชิ้น
ในขณะที่สถานที่ตั้งโรงแรมมีหลายๆอย่างให้ทำเพื่อผ่อนคลายและเป็นย่านอยู่อาศัยจริงๆ แต่ก็เดินไปสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่รอบๆสถานีเกียวโตได้ไม่ไกล ความรู้ท้องถิ่นที่นี่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงก็เช่น คำแนะนำที่ให้นั่งรถบัสสาย 202 หรือ 207 จากถนนคุโจไปยังฮิกะชิยะมะซึ่งวิธีนี้จะเลี่ยงฝูงชนที่สถานีเกียวโตและการจราจรติดขัดที่ถนนทางเหนือได้