ศาลเจ้าฮิกะวะ (Hikawa) ในเมืองคะวะโกะเอะ (Kawagoe) แยกออกจากศาลเจ้าฮิกะวะหลักที่เมืองโอะมิยะในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแวะชมในช่วงสิ้นสุดของวัน เนื่องจากเมืองคะวะโกะเอะเป็นเมืองเก่าแก่ มีผู้คนมากมายแวะมาเยี่ยมชมศาลเจ้าในชุดญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และนักท่องเที่ยวสามารถเช่าชุดกิโมโนหรือชุดยูกะตะ ได้จากร้านค้าหลายๆ แห่งในบริเวณใกล้เคียง ศาลเจ้าเปิดตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ ผู้เข้าชมจึงมีเวลามากมายสำหรับไหว้พระ ชมแผ่นอธิษฐาน 'เอะมะ' และของที่ระลึก และถ่ายรูป แม้ในวันฝนตกที่ศาลเจ้าก็ยังมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมกันอย่างไม่ขาดสาย
ช่วงเวลาที่ดีทิ่สุดในการมาเยี่ยมชมศาลเจ้าชินโตแห่งนี้คือ ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกดิน เป็นเวลาที่ศาลเจ้าถูกครอบคลุมด้วยแสงอาทิตย์อัสดง เพิ่มความงดงามให้แก่อาคารศาลเจ้า แมกไม้ และเครื่องประดับประดาต่างๆ เช่น 'เอะโดะ ฟุริน' หรือกระดิ่งลม ซึ่งแขวนเรียงรายอยู่ตรงประตูทางเข้าและเบื้องหลังศาลเจ้า ส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งน่าฟัง กระดิ่งลมเหล่านี้เมื่อกระทบแสงยามเย็นจะเป็นภาพที่งดงามสำหรับถ่ายรูป ศาลเจ้าแห่งนี้เรืองชื่อในเรื่องฟุริน และมีการจัดเทศกาลฟุรินขึ้นทุกปี
ในขณะที่ โอะมิคุจิ (omikuji) หรือเซียมซีของญี่ปุ่นส่วนใหญ่ะจะทำโดยการจับไม้เซียมซี แต่เซียมซีของที่นี่ทำให้น่าสนุกขึ้นอีกนิดนึง คือจะมีกล่องไม้อยู่หลายกล่อง แต่ละกล่องจะมีปลาตัวน้อยหลากสีอยู่มากมาย และเป็นปลาที่มีโอะมิคุจิ (omikuji) หรือใบเซียมซีอยู่ภายใน คนที่ต้องการรู้เรื่องอนาคตเกี่ยวกับสุขภาพและการงานก็เลือกจับปลาน้อยสีแดง ส่วนน้องปลาสีชมพูและสีขาวจะเป็นเซียมซีสำหรับเรื่องชีวิตรัก (เหมาะเลย! ก็ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อว่าเป็น 'ศาลเจ้าแห่งความรัก') ในราคา 300 เยน คุณสามารถล่วงรู้คำทำนายเกี่ยวกับอนาคตของคุณ และยังได้ปลาตัวน้อยน่ารักไปเป็นของที่ระลึกอีกด้วย หลังจากไหว้พระแล้ว ผู้เข้าชมยังสามารถเขียนคำอธิษฐานบนแผ่นเอะมะ แล้วนำไปแขวนร่วมกับแผ่นเอะมะอีกมากมายในศาลเจ้า
แม้ศาลเจ้าฮิคะวะ จะไม่ใหญ่โตเท่าศาลเจ้าชินโตแห่งอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับโตเกียว แต่บรรยากาศที่มีเสน่ห์และเงียบสงบเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้คนให้แวะมาเยี่ยมชม ศาลเจ้าเข้าถึงได้ด้วยการเดินเท้าจากสถานี Kawagoe Hon-Kawagoe ใชัเวลาห้านาที และสำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ก็มีที่จอดรถกว้างขวางอยู่ตรงทางเข้าศาลเจ้า