ใครที่มาโอซาก้า เชื่อว่าต้องอยากไป Universal Studios โดยเฉพาะตอนนี้ที่มี Harry Potters เปิดใหม่สดๆร้อนๆ (ติดตามได้ที่นี่นะคะ http://th.japantravel.com/photos/harry-potter-ที่-universal-โอซาก้า) และ Harry Potter ก็มีส่วนอย่างยิ่งในการเปลี่ยนการไปเที่ยว Universal Studios วันนี้เราจะมานำเสนอวิธีทุ่มทุนเพื่อเที่ยว Universal Studios ญี่ปุ่นแบบคุ้มเวลาหนึ่งวันที่สุด
1) ไม่ต้องเสียเวลาไปจองตั๋วล่วงหน้าถ้าไม่สามารถจอง Express Pass ได้ เพราะต้องไปต่อแถวซื้อ Express Pass อยู่ดี อ้าวแล้วถ้าไม่ซื้อ Express Pass ล่ะ ซื้อเถอะค่ะ เราแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ซื้อ อ่านข้อสองต่อเลยค่ะ
2) Universal Studios ญี่ปุ่นจะมี Express Pass 3 แบบ แบบ 3, 5, 7 มันคือบัตรเบ่งที่จะทำให้คุณแทบไม่ต้องต่อแถวเครื่องเล่นสุดฮิต โดยส่วนมากจะมีตัวเลือกให้ เช่น อันแรกจะขึ้น Spider Man หรือ Space Fantasy และอื่นๆ แต่ถ้าเป็นเครื่องเล่น Harry Potter จะไม่มีให้เลือก คงรู้ว่าไงก็เลือก Harry Potter ด้วย Express Pass จะได้เล่นภายใน 10-15 นาที โดยถ้าต่อแถวอาจเป็นชั่วโมง หรือแม้แต่ Single Entry สั้นสุดที่เห็นก็ยัง 20 นาที
แต่ปัจจุบัน Express Pass มีความพิเศษเพิ่มขึ้นมาคือ ถ้าซื้อแบบ 5 หรือ 7 นอกจากจะได้บัตรเบ่งเล่น Harry Potter and the Forbidden Journey แล้ว ยังได้เวลาเข้าเขต Harry Potter ด้วย อันนี้สำคัญมากค่ะ เพราะถ้าไม่มีบัตรเบ่งนี้ สิ่งแรกที่คุณควรทำหลังเข้าไปในสวนสนุกคือวิ่งไปเอาบัตรคิวเข้าเขต Harry Potter เพราะเขาจำกัดคนเข้า! ขอบอกเลยว่าแถวยาวมาก ยาวจาก Harry Potter มาถึง Monster Show เลย คาดว่ารอประมาณชั่วโมงนึง นี่ไม่นับต่อแถวรอเข้าสวนสนุกอีกชั่วโมงครึ่งนะ ซึ่งก็ต้องต่อเพื่อจะได้มาต่อแถวเอาบัตรเข้า Harry Potter อีก รวมทั้งหมดก็ 2.5 ชั่วโมงเลยทีเดียว มีแต่นิดนึงคือ เมื่อได้บัตรมาแล้ว เขาจะให้หน้าต่างเวลาเข้าเล่น Harry Potter แค่ 15 นาที ต้องแพลนวันตามนั้นนะคะ
สำหรับประเภท เราขอแนะนำให้ซื้อบัตรเบ่งแบบ 5 และ ใครที่อยากเล่นครบแบบไม่เสี่ยงแถวยาวซื้อแบบ 3 ด้วย
- แบบ 5 ได้เวลาเข้า Harry Potter และได้เล่นตัวเด่นๆหลายตัว แบบ 7 เราว่ามีบางตัวที่ไม่คุ้ม เช่น Flight of Hippogriff แถมมีบางตัวที่ไม่มีตัวเลือก ซึ่งไม่แน่แถวอาจสั้น ถ้าไม่อยากหักโหม หรือมีเด็กเล็ก เราว่าแบบ 5 ใบเดียวพอ ใบนี้ราคาจะอยู่ประมาณ 5-6 พันกว่าๆ
- สำหรับคนลุยเละ การซื้อ 5 + 3 แพงกว่า 7 แค่พันกว่าเยนแต่ได้เล่นตัวเด่นๆครบกว่า แถมถ้ามาวันธรรมดาที่บัตรไม่แพง ราคาพอๆกับบัตรแบบ 7 วันแพง อันนี้เหมาะคนที่อยากเล่นครบ หรืออาจไว้เล่นตัวที่ชอบมากซำ้ก็ได้ถ้าบางตัวพอดีเจอแถวสั้นหรือไม่อยากเล่น เช่นเราใช้ แบบ 5 และ 3 เล่น Hollywood Dream ทั้งคู่แต่แบบไปข้างหน้าและถอยหลัง มันส์ครบรส บัตรแบบ 7 ราคาจะอยู่ 6 - 8 พันกว่าๆ ในขณะที่ 5+3 ราคาจะอยู่ 8-10 เราไปวันธรรมดา ฉะนั้นจะอยู่ 8 พันกว่าซึ่งพอๆกับบัตรแบบ 7 วันเสาร์อาทิตย์ คุ้มมาก
ที่แนะนำให้ซื้อบัตร Express ไม่ใช่แค่เพื่อเล่นเครื่องเล่นนะคะ อย่าเข้าใจผิด แต่การไม่ต้องต่อแถวทำให้สามารถใช้เวลาชิลล์ได้เต็มที่ คือไม่ต้องต่อแถวเข้าสวนสนุก ใช้เวลานั้นถ่ายรูปหรือไปนั่งร้านกาแฟแพลนว่าจะเล่นอะไรก่อนหลังเมื่อรู้ว่าได้เข้าHarry Potter เวลาไหน ไม่ต้องต่อแถวเอาบัตรเข้า Harry Potter ไม่ต้องต่อแถวเครื่องเล่น สามารถเล่นครบและที่สำคัญ มีเวลาเดินช้อป เล่นตัวน่ารักๆ พักกินข้าว เดินดูโชว์ เป็นการใช้หนึ่งวันที่คุ้มกว่าการต่อแถวแล้วได้เล่นไม่กี่ตัวมากค่ะ
3) มาแต่เช้า ก่อนสวนเปิดชั่วโมงครึ่ง เพราะเขาเปิดขายตั๋วก่อนสวนเปิดหนึ่งชั่วโมง และ Express Pass มีจำนวนจำกัด เราเดินผ่านที่ขายตั๋วหลังสวนเปิดครึ่งชั่วโมง Express Pass ขายหมดแล้วทุกตัว และถ้าใครไม่มี Express Pass ชีวิตเปลี่ยน โดยเฉพาะถ้ามีเด็กที่อยากเข้า Harry Potter เตรียมตัวหมดเวลาทั้งวันไปกับการต่อแถวได้เลย!
4) ถ้ามีโชว์ที่อยากดู แวะดูตารางโชว์แถวร้าน Mel's Drive-In ก่อนเพื่อจะได้แพลนถูก แต่ขอเตือนนิดนึงว่าโชว์ที่นี่เป็นภาษาญี่ปุ่นหมด แนะนำนิดนึงนะคะ สำหรับ การใช้ Express Pass ดูโชว์ ข้อดีคือสามารถไปถึงก่อนเขาเปิดประตูนิดนึงแล้วเราจะได้ไปจองที่นั่งดีๆก่อน แต่ต้องไปก่อนเขาเปิดประตูนะคะ ไม่งั้นไม่มีประโยชน์ นั่งริมในสุดหน้าสุดไว้ก่อน เพราะเขาจะย้ายห้องไปเรื่อยๆ ถ้าไม่อยู่ริมในเวลาย้ายห้องจะโดนคนแทรกมาอยู่หน้าสุดจนหมด
5) แวะซื้อน้ำที่ Lawson's หน้าสถานีรถไฟ หรือกดตู้ในสถานีก็ได้ เพราะเมื่อมาถึงบริเวณสวนสนุกปุ้บ จาก 110 เยน จะกลายเป็น 200 เยนทันที คิดง่ายๆ ซื้อสักสองขวด ก็ประหยัดไป 180 เยน เป็นแรงบันดาลใจให้ซื้อ Express Pass 5+3 มากขึ้น
ขอโทษนะคะ ยาวนิดนึง แต่ทีนี้ก็ขอให้เที่ยว Universal Studios โอซาก้า กันอย่างสนุกสุดคุ้มในหนึ่งวันได้เลยค่ะ
