สวัสดีนักท่องเที่ยวทุกท่านที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่จะทำให้คุณได้พบเจอกับประสบการณ์ที่แสนประทับใจที่ไม่มีทางลืมได้ ถ้าพูดถึงประเทศญี่ปุ่น คุณนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนบ้างค่ะ แน่นอนว่าคุณต้องนึกถึงจังหวัดที่เป็นที่นิยมอย่าง ฮอกไกโด, โตเกียว, เกียวโต, โอซาก้า เป็นต้น แต่ดิฉันอยากแนะนำจังหวัดที่ดิฉันเคยไปและประทับใจเป็นอย่างมากไม่แพ้กับจังหวัดใหญ่ๆเลย นั้นก็คือ จังหวัดโทคุชิมะ
ถ้าคุณมีเวลาแค่ 2วัน 1คืน คุณจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างค่ะ ตามดิฉันมาเลยค่ะ ดิฉันจะพาคุณไปดื่มด่ำไปกับบรรยากาศและสัมผัสกับเสน่ห์ของจังหวัดโทคุชิมะ เรามาเริ่มต้นการเดินทางด้วยการไปสูดอากาศที่บริสุทธิ์ในยามเช้าบนยอดเขาอาวะ ที่คุณจะสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ได้ทั้งเมือง โดยเราจะอาศัยการเดินทางจากสถานีรถไฟ JR Tokushima เดินจากสถานีประมาณ 10 นาที เราจะถึง Bizan Ropeway ค่าขึ้นกระเช้าลอยฟ้า ผู้ใหญ่(รอบเดียว)= 610 เยน, (ไปกลับ) = 1,020 เยน ส่วนเด็ก (รอบเดียว) = 300 เยน, (ไปกลับ) = 510 เยน ใช้เวลาขึ้นไปถึงยอดประมาณ 6 นาที พอขึ้นไปถึงยอดแล้ว คุณจะได้สัมผัสกับภาพวิวสวยและจากมุมสูงและเห็นสภาพความเป็นอยู่ของชาวโทคุชิมะ อีกทั้งอากาศบริสุทธิ์ที่ทำให้คุณรู้สึกสดชื่นไปทั้งวัน
จากนั้นเดินทางเท้าไปอีกประมาณ 15 นาที เราจะพบกับร้านราเมง ที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดโทคุชิมะ ที่มีชื่อว่า Chuuka Soba Inotani ซึ่งร้านจะเปิดบริการ เวลา 10:30-17:00 นาที หยุดทุกวันจันทร์ ส่วนเมนูที่ดิฉันอยากจะแนะนำคือ “โทคุชิมะราเมง” น้ำซุปที่ทำด้วยกระดูกหมูอย่างดี ที่เคี่ยวจนได้ที่ เส้นราเมงเป็นแบบเส้นเล็ก ส่วนเนื้อจะใช้เนื้อหมูส่วนท้อง พร้อมจัดตกแต่งเพิ่มรสชาติด้วยต้นหอม, หน่อไม้, ถั่วงอก และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ไข่ดิบนั่นเอง ด้วยรสชาติที่กลมกล่อมจะทำให้คุณจะรู้สึกถึงความอร่อยที่เหมือนลอยได้ หลังจากที่อิ่มหนำจากร้านอร่อยแห่งนี้แล้ว ถึงเวลาที่เราจะไปผจญภัยต่อแล้วค่ะ เป้าหมายต่อไปคือ Uzu no Michi (เรียกอีกอย่างว่า “ทางน้ำวน”) เราสามารถขึ้นรถประจำทางจากสถานีรถไฟ JR Tokushima ไปลงที่ป้าย Naruto Kouen ซึ่งเป็นป้ายสุดท้าย ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง ค่าเข้าของผู้ใหญ่ = 510 เยน, เด็กมัธยมต้น-ปลาย = 410 เยน ส่วนเด็กประถม = 250 เยน ทางเดินตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงจุดชมน้ำวน มีระยะทาง 450 เมตร ระหว่างที่เดินไปนั้น จะมีป้ายเพื่อให้เป็นความรู้กับผู้คนที่มาเที่ยว และศึกษาความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ระหว่างทางจะมีจุดที่สามารถนั่งพักได้ด้วยทางเดินนั้นจะสั่นตามแรงของลมและพื้นเป็นกระจกที่สามารถมองลงไปข้างล่างได้ ตอนดิฉันเดินต้องเกาะกลไปตามเสา ในตอนนั้นกลัวมากแต่ตอนที่มาถึงจุดชมวิวความรู้สึกกลัวได้หายไปเลย มีแต่ความประทับใจในความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้น เราสามารถยืนบนกระจกเพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วยนะค่ะ สำหรับวันหยุดของที่นี่ คือ วันจันทร์ สัปดาห์ที่ 2 ของเดือน มีนาคม, มิถุนายน, กันยายน และ ธันวาคม ใครที่จะมาท่องเที่ยวสถานที่นี้ก็ลองเช็ควันและเวลาให้ดีนะค่ะ
หลังจากนั้นเราก็กลับไปที่สถานีรถไฟ JR Tokushima จากนั้นเดินไปอีกประมาณ 10 นาที เพื่อไปสถานที่จัดงาน Awa Matsuri ซึ่งเทศกาลนี้จะจัดขึ้นวันที่ 12-15 สิงหาคมของทุกปี เป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงมากของจังหวัดโทคุชิมะ งานเริ่มตั้งแต่เวลา 16:00 – 22:00 นาที โดยที่เทศกาลนี้จะจัดขึ้นตั้งแต่หน้าสำนักงานเทศบาลของเมือง, เมือง Motomachi, เมือง Shinmachi ไปจนถึงสะพานRyogoku ซึ่งทุกคนจากหมู่บ้านต่างๆ, สำนักงาน, มหาวิทยาลัย, โรงเรียน จะเข้าร่วมเทศกาลนี้ด้วย เราสามารถเดินไปพร้อมๆกับขบวนเพื่อดูความสวยงามของการเต้นอาวะ ที่มีชื่อเสียง เราสามารถเข้าร่วมเต้นได้ในขบวน และตามข้างทางก็จะมีการตกแต่งด้วยไฟหลากสี และมีเสียงดนตรีตลอดทางเดิน อีกทั้งยังมีการตั้งร้านขายของอีกจำนวนมาก และผู้คนมากมายที่หลั่งไหลเข้ามาร่วมงาน บรรยากาศเหมือนได้กลับไปเดินในเมืองสมัยก่อน สนุกมาก ประทับใจทั้งกายและใจเลยทีเดียว
เป็นยังไงบ้างค่ะ สถานที่ที่ดิฉันแนะนำนี้ จะสามารถทำให้คุณตัดสินใจมาท่องเที่ยวที่เมืองนี้ได้รึไม่ อย่างน้อยถ้าเมืองนี้อยู่ในตัวเลือกการท่องเที่ยวของคุณ ดิฉันมั่นใจว่าคุณจะไม่ผิดหวังที่จะได้พบกับเสน่ห์ของเมืองนี้เลย