สำหรับผู้ที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายของเมืองหลวง สู่ความเงียบสงบท่ามกลางร่มไม้ขนาดใหญ่ การได้เดินเล่นในศาลเจ้า ชมความวิจิตรงดงามของสถาปัตยกรรม แวะขอพรและเช่าเครื่องรางติดไม้ติดมือมา ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการท่องเที่ยวในวันที่อากาศเป็นใจ
ศาลเจ้าชินะกะวะเป็นหนึ่งในสิบศาลเจ้าที่ยิ่งใหญ่ในโตเกียว ศาลเจ้าแห่งนี้ จะคราคร่ำไปด้วยผู้คนที่มาขอพรโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ อย่างเช่น เทศกาลปีใหม่ เนื่องจากอยู่ไม่ไกลสถานีรถไฟ เดินเพียงไม่กี่อึดใจ เราก็จะเห็นประตูทางเข้าตั้งตระหง่านต้อนรับผู้มีจิตศรัทธาให้เข้ามาเยี่ยมชม ด้านข้างประตูมีรูปปั้นเทพเจ้าหน้าตาใจดีตั้งอยู่ ถามคนท้องถิ่นได้ความว่า รูปปั้นนี้คือ เทพเจ้าประจำศาลเจ้านั่นเอง ถัดจากทางเข้าเป็นบันไดสูง ทอดยาวขึ้นไปถึงตัวศาลเจ้า เมื่อเดินขึ้นมาถึงบันไดขั้นสูงสุด ทางซ้ายจะเป็นภูเขาเล็กๆ สูงราว 15 เมตร นั่นคือ Fujizuka หรือภูเขาไฟฟูจิจำลองที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่ไม่สามารถปีนขึ้นไปขอพรที่ภูเขาไฟฟูจิจริง ได้มีโอกาสปีน Fujizuka ภูเขาไฟจำลองแห่งนี้แทน ตามประวัติภูเขาไฟจำลองนี้ สร้างมาจากลาวาของภูเขาไฟฟูจิด้วย ดังนั้น จึงเหมือนกับเราได้พิชิตภูเขาไฟฟูจิจริงๆ นั่นเอง
ทางขึ้น Fujizuka ค่อนข้างแคบและชัน จึงต้องเดินอย่างระมัดระวัง แต่ละช่วงจะมีป้ายบอกลำดับชั้น ถอดแบบมาจากการเดินขึ้นภูเขาไฟฟูจิ เมื่อเดินขึ้นมาถึงยอด เราจะเห็นวิวที่สวยงามของย่านชินะกะวะ ว่ากันว่า เมื่อก่อนเราสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิของจริงได้จากที่นี่ แต่ด้วยความที่ยุคสมัยเปลี่ยนไป ตึกรามบ้านช่องถูกสร้างมาบดบัง ทำให้วิวของภูเขาไฟฟูจิหายไปอย่างน่าเสียดาย
ถัดจาก Fujizuka เข้ามา เป็นศาลเจ้าชินากาวะ เราสามารถขอพรและเช่าเครื่องรางได้ที่นี่ นอกจากตัวศาลเจ้าหลักแล้ว ทางด้านขวาจะมีประตูโทริ (ประตูไม้สีแดง) ทอดยาวไปที่ศาลเจ้าขนาดเล็ก ด้านในเป็นน้ำพุรูปทรงเหรียญ เชื่อกันว่าขอพรที่นี่จะทำให้ร่ำรวยและมีความสุข
หลังจากพิชิตภูเขาไฟฟูจิจำลอง (อย่างเหน็ดเหนื่อย?) และขอพรในศาลเจ้าเป็นที่เรียบร้อย ฉันก็ใช้มันเป็นข้ออ้างในการหาที่นั่งพักผ่อนสบายๆ บรรยากาศร่มรื่น ซึ่งไม่ไกลจากศาลเจ้า มีร้านน้ำแข็งไสเลื่องชื่อในย่านนี้ ชื่อ Sweets Ichounoki มีเมนูสุดสร้างสรรค์ให้เลือกมากมาย เพียงเดินข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามศาลเจ้า แล้วเดินต่อไปทางทิศสถานี Kita-Shinagawa เลี้ยวขวาเข้าซอยแรก จะเห็นร้านน้ำแข็งไสอยู่ริมถนน หากไปช่วงบ่ายแก่ๆจะยิ่งหาง่าย เพราะจะมีคู่รักและกลุ่มสาวๆ นั่งรอคิวกันเต็มหน้าร้าน อยากรู้ว่าอร่อยแค่ไหน ต้องไปลองเองนะคะ
วิธีการเดินทางมาศาลเจ้า : นั่งรถไฟ Keikyu มาลงสถานี Shimbamba แล้วเดินต่อเพียง 1 นาที
