ภูเขาร็อกโกะ&หอชมวิวชิดาเระ

ทัศนาจรกันได้ทุกคน

ภูเขาร็อกโกะ (六甲山) คือเทือกเขาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเฮียวโงะ และเป็นชื่อของยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขานั้น สามารถมองเห็นได้จากทั่วทุกที่ในโกเบ เป็นสถานที่ขึ้นชื่อและติดอันดับ 50 สุดยอดภูเขาในเฮียวโงะ ติดอันดับ 100 ในแถบคิงกิ และอยู่ใน 300 อันดับภูเขาขึ้นชื่อที่สุดของญี่ปุ่น ในโอซาก้าและโกเบรู้จักกันว่าเป็นจุดชมวิวอันและเส้นทางปีนเขาอันน่าประทับใจ จากบนยอดเขาคุณสามารถเห็นวิวของโกเบกับโอซาก้าได้แบบมุมกว้างรอบทิศทาง และวิวจะยิ่งสวยหลังพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า และมีแสงสีของมหานครสว่างตามมา วันไหนที่อากาศสดใสก็จะมองเห็นไปไกลสุดขอบฟ้า

ถ้าจะขึ้นยอดเขาร็อกโกะ ฉันขอแนะนำให้ใช้กระเช้า ซึ่งเริ่มต้นจากสถานีรถไฟสายเจอาร์ร็อกโกะมิจิ หรือที่สถานีมิคาเกะบนสายฮันชิน ขึ้นรถบัสหมายเลข #16 ไปจนถึงสถานีกระเช้า ขึ้นรถบัสราคา 200 เยน ส่วนกระเช้าเที่ยวเดียว 570 เยน ถ้าไป-กลับราคา 1000 เยน

ใช้เวลาขึ้นถึงยอดเขาประมาณ 10 นาที และพอขึ้นไปถึงแล้วก็จะพบกับสถานที่ท่องเที่ยวจำนวนมาก อย่างเช่นสวนพฤกษศาสตร์ ชมพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี หรือเล่นสกี นอกจากนี้ก็ยังมีร้านค้าและร้านอาหารกับหอชมวิวอันน่าทึ่งด้วย จะมีรถบัสขับวนรับส่งอยู่ให้เดินทางไปจุดต่าง ๆ เหล่านี้ได้สะดวก รวมไปถึงที่อาริมะ ออนเซนด้วย

ส่วนตัวแล้วฉันขอแนะนำไปให้ไปแวะหอชมวิวร็อกโกะชิดาเระ หอชมวิวแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยฮิโรชิ ซัมบุยชิ สถาปนิกชื่อดังผู้นำแรงบันดาลใจมาจากองค์ประกอบธรรมชาติอย่างอากาศ ลม และน้ำ แนวคิดของหอชมวิวนี้มีความเป็นธรรมชาติเต็ม ๆ แทนที่จะมุ่งไปในเรื่องของวิวที่จะได้เห็น หอชมวิวนี้กลับกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวชมผลกระทบของธรรมชาติที่เกิดขึ้นในสี่ฤดูแทน ซัมบุยชิได้แรงบันดาลใจในโครงการนี้มาจากน้ำที่มีหลายรูปแบบ ภูเขาร็อกโกะนั้นรู้กันดีว่าช่วงฤดูหนาวจะเหน็บไปถึงกระดูก และตัวของหอชมวิวก็เป็นรูปโดมที่สร้างจากแผ่นหกเหลี่ยมเพื่อไว้จับน้ำแข็งในฤดูหนาว ซึ่งหอชมวิวก็ดูเหมือนมีใบไม้น้ำแข็งปกคลุมอยู่เลย

หอชมวิวแห่งนี้น่าสนใจเพราะมีระบบปรับอุณหภูมิในช่วงฤดูร้อน เพื่อทำให้หอชมวิวนี้มีความเย็น สถาปนิกได้สร้างอุโมงค์ไม้ขนาดยักษ์ไว้ตรงกลางพร้อมกับบ่อเก็บน้ำจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะเต็มไปด้วยน้ำและน้ำแข็งตามอากาศในฤดู ช่วงฤดูหนาว น้ำที่เก็บสะสมจากฤดูร้อนกับฤดูใบไม้ร่วงจะแข็งตัว ก้อนน้ำแข็งเล็กจะถูกเก็บขึ้นมาจากบ่อน้ำและน้ำไปในช่องอากาศที่กลางหอชมวิว ทำให้หอชมวิวมีความเย็นในช่วงฤดูร้อน

และท้ายสุดสิ่งที่ทำให้หอชมวิวน่าสนใจสุด ๆ คือด้านสถาปัตยกรรม มันทั้งสวยงามและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาชมธรรมชาติในแบบทีไม่เหมือนใคร ลองมาแวะรับรองว่าไม่ผิดหวัง

ก่อนจะขึ้นกระเช้ากลับไปด้านล่าง อย่าลืมไปแวะที่ดาดฟ้าชมวิวที่ตั้งอยู่ใกล้กับร้านอาหารแบะร้านค้า ถ้าเป็นไปได้ให้รอหลังพระอาทิตย์ตกดิน เพราะวิวน่าทึ่งและตราตรึงใจยิ่งกว่าตอนกลางวันอีก

ถ้าคุณไปโกเบตอนสินเดือนกุมภาพันธ์ อย่าลืมไปชมเทศกาลน้ำแข็งร็อกกโกะซันซึ่งจัดบนยอดเขา เนื่องจากอุณหภูมิไม่ได้ติดลบตลอดเวลา จึงมีการวางรูปแกะสลักน้ำแข็งทั้งหมดไว้ในเตนท์ขนาดใหญ่เพื่อป้องกันละลาย งานเทศกาลนี้จัดเป็นเวลาสี่วัน รูปแกะสลักน้ำแข็งเหล่านี้จะมันวาวมาก เพราะผู้ออกแบบไม่ได้ใส่หิมะไว้ตอนปั้นเสร็จแล้ว แต่จะใส่ไฟสีสวยที่ส่องแสงผ่านน้ำแข็งเข้าไปแทน ค่าเข้าชมนั้นก็ถูกมาก แต่คุณก็สามารถซื้อตั๋วแบบเหมาจ่ายได้ที่ทางเข้ารถกระเช้าเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายนิดหน่อยได้ เป็นกิจกรรมสุดสนุกสำหรับทำพร้อมเด็ก ๆ และยังเป็นที่ฮิตกันในหมู่คู่รักวัยรุ่นด้วย

0
0
บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่
ช่วยเราพัฒนาเว็ปไซต์ JapanTravel.com
ให้คำติชมหรือข้อเสนอแนะ

แสดงความคิดเห็น

Thank you for your support!

Your feedback has been sent.