วัดเซอิเรียวจิในโอโมริ

วัดที่แสนสงบในสภาพแวดล้อมธรรมชาติอันเงียบสงบ

แม้ว่าบางครั้งดูเหมือนไม่ใช่ทุกวัดในญี่ปุ่นที่เก่า วัดใหม่ๆก็มักถูกสร้างขึ้นมาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการที่วัดใหม่ๆที่ไม่มีประวัติศาสตร์ยาวนานจะไม่น่าสนใจไปซะทีเดียว อย่างวัดเซอิเรียวจิก็เพิ่งสร้างขึ้นในปี 1982 แต่ก็เป็นที่ตั้งของรูปปั้นพระใหญ่โชวะ ไดบุซึซึ่งเป็นรูปปั้นพระที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและยังตั้งอยู่ในที่ที่บรรยากาศเงียบสงบอีกด้วย

จากถนนผมเดินมาไดชิโดะซึ่งเป็นห้องโถงสีแดงสดใสที่ตั้งชื่อจากโคโบะ ไดชิผู้ก่อตั้งนิกายชินงอนพุทธศาสนาของญี่ปุ่น สีของมันดึงความสนใจผมแต่ในนั้นก็ไม่มีอะไรให้ดูมากนัก ผมจึงข้ามสะพานสีสันสดใสไปคอนโดะ ห้องโถงหลักที่ทำจากไม้ไซเปรสทั้งหมด ข้างในดูมีมนต์เสน่ห์ทั้งแสงสลัวและกลินธูปฟุ้งช่วยสร้างสร้างบรรยากาศในฌานซึ่งผมค่อยๆมองไปรอบๆที่รูปปั้น, ประติมากรรม,และการแกะสลักที่ดูมีชีวิตชีวา ในทางเดินด้านหลังห้องโถงมีรูปวาดจำนวนมาก ผมเดาว่าน่าจะเป็นรูปพระสงฆ์ในพุทธศาสนาและนักบุญและอีก 1 ภาพวาดมหากาพย์ขนาดใหญ่ชื่อว่า”การลงมาของพระอมิตาภพุทธะและความหลากหลายแห่งสวรรค์”ซึ่งมีสีสันสดใสและดูทรงพลังดังเช่นชื่อรูป

ใกล้กับคอนโดะเป็นไคซันโดซึ่งเป็นห้องโถงไม้เล็กกว่าพร้อมกับรูปปั้นของโคโบะ ไดชิในเครื่องแต่งกายแสวงบุญและในด้านอื่นๆเป็นเจดีย์ 5 ชั้นที่ทำจากไม้ไซเปรส เจดีย์ไม้สูง 39 เมตรเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในโตโฮกุ สูงกว่ายอดต้นไม้เสียอีก มองแล้วน่าประทับใจ มันตั้งโดดเด่นปะทะกับแมกไม้และท้องฟ้า

ผมเดินออกจากเจดีย์ขึ้นไปยังทางลาดที่เป็นป่าที่ใกล้กับไดบุซึ ผมหยุดตรงด้านขวาที่ศาลเจ้าเล็กๆข้างถนนถัดจากสระน้ำขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยลูกอ๊อดว่ายไปมาและเล็งโยนเหรียญเข้าไปในตรงกลางรูปปั้น มันล้อมรอบไปด้วยกังหันพัดลมเสียงดังกระหึ่ม กังหันมีสีสดใสโดดเด่นอยู่ท่ามกลางต้นไม้เพื่อสื่อว่ากังหันเป็นกำลังใจให้เด็กๆในโลกหน้า

ตรงด้านบนของทางลาดชันมีรูปปั้นหน้าเด็กอยู่ทั้ง 2 ข้าง ตั้งเฝ้ายามอยู่ที่ทางเข้าที่ซึ่งไดบุซึตั้งอยู่ ท่านสง่างามยังดูเยาว์แม้จะตากลมตากฝนแต่การแสดงความรู้สึกและการวางท่าทีเฉยของท่านดูสุขุมมาก ความรู้สึกไตร่ตรองรอบครอบนี้ดูมีมากขึ้นก็เพราะสภาพแวดล้อมที่ล้อมรอบไปด้วยป่า ตั้งแต่ผมมาเสียงที่ได้ยินมีเพียงเสียงนกที่ร้องหากันจากรอบทิศทาง ที่นี่มีเก้าอี้ 2-3 ตัวให้นักท่องเที่ยวนั่งพักชั่วครู่เพื่อให้ได้หายใจลึกๆ, ดูรูปปั้นเงียบๆ, ดื่มด่ำกับบรรยากาศ

เมื่อลองเดินมาอีกฝั่งหนึ่งผมได้เจอรูปปั้นอื่นๆเพิ่มอีก มันเป็นรูปปั้นที่เล็กแต่ก็น่าสนใจเหมือนกัน อย่างอิชิกัน คันนนเป็นเทพธิดาแห่งความเมตตาท่านจะรับคำขอจากผู้สักการะเพียงข้อเดียวเท่านั้น(ผมจึงต้องคิดให้ดี) รูปปั้นฟุโดะ โมโยะถึงจะดูป่าเถื่อนแต่จิตใจเขาตรงกันข้าม จากนั้นตรงด้านล่างก็เป็นโคโบะ ไดชิอีกครั้งหนึ่ง ตั้งอยู่ถัดจากสระน้ำรูปร่างเหมือนชิโกกุเกาะทางตะวันตกของประเทศญี่ปุ่นซึ่งเขาอาศัยอยู่และฝึกบำเพ็ญเพียรที่นั่น ผมเดินรอบบ่อช้าๆตามรอยแผ่นโลหะรูปร่างเหมือนรอยเท้าจำนวน 88 ก้าวซึ่งแต่และก้าวเป็นตัวแทนวัดหนึ่งวัดในเส้นทางแสวงบุญบนเกาะชิโคกุ

นอกจากนี้ยังมีร้านแผงลอย 2 ร้านที่คุณสามารถแวะซื้อขนม, เครื่องดื่มและของที่ระลึกได้ ส่วนการเดินทางมาที่นี่ง่ายมากแค่นั่งรถบัสธรรมดามาจากสถานีโอโมริและคุณมีเวลาครึ่งวันที่จะใช้เตร็ดเตร่อยู่ที่นี่เพื่อหนีจากเมืองใหญ่มาหาความสงบตามธรรมชาติและความเงียบสงบทางจิตใจ

0
0
บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่
ช่วยเราพัฒนาเว็ปไซต์ JapanTravel.com
ให้คำติชมหรือข้อเสนอแนะ

แสดงความคิดเห็น

Thank you for your support!

Your feedback has been sent.