หนึ่งในสิ่งที่ขึ้นชื่อว่าควรทำเมื่อมาโคยะซังคือการนอนวัด หรือ Shukubo ในบรรดา 117 วัดที่อยู่ในเมืองเล็กๆนี้ มีถึง 53 วัดที่เปิดให้นอนในวัดได้ อย่าเข้าใจผิดนะคะ ไม่ใช่ให้เข้าไปนอนลานวัดฟรีอะไรอย่างนี้นะ แต่มีห้องให้เช่าอยู่ดีๆพร้อมอาหารเย็นและเช้าเลย แต่ละวัดนอกจากจะมีพระพุทธรูปต่างๆอย่างที่ควรมีแล้ว ยังมีสวนญี่ปุ่นให้ชมด้วย คือพระเขามีไว้ทำสมาธิอะนะ แต่เราชมเพื่อความสวยงาม นอกจากนี้ เขายังอนุญาติให้เราดูเขาประกอบพิธีทางศาสนาตอนเช้าด้วย มันเป็นการทำให้การมาโคยะซังสมบูรณ์แบบขึ้นมาก ข้อดีอีกอย่างคือ เราจะได้สามารถไปเดินที่ Okunoin Temple ในตอนกลางคืนและเช้าตรู่เพื่อจะได้เก็บบรรยากาศได้ครบ แต่ขอบอกก่อนนะคะ มันยังเป็นการมานอนวัดอยู่นะ คือเราควรให้เกียรติสถานที่และเคารพกฏเขา ถ้าอยากได้บริการแบบโรงแรมควรไปอยู่โรงแรมนะคะ
เราคิดหนักอยู่สองเรื่องในการหาที่พักที่โคยะซังคือ 1) อยากได้ห้องที่มีห้องน้ำในตัว และ 2) อยากได้ที่ที่สามารถเดินไป Okunoin Temple ได้ใกล้ๆ แล้วมันก็มาลงตัวที่วัด Sekisho-in ที่นี่มีห้องแบบมีห้องน้ำในตัวแถมมีวิวสวนญี่ปุ่น และที่นี่สามารถเดินไป Okunoin Temple ได้ในสองนาที ต้องออกตัวก่อนว่าราคาไม่ถูกเลยนะคะ แต่บนนี้ก็ไม่มีที่ไหนถูกเลย มันสำหรับคนที่มุ่งมั่นจะมาลองนอนวัดค่ะ
ต้องบอกว่า ประทับใจกับที่นี่มากๆ มาถึงปุ๊บ อีกแล้ว เขาเรียกชื่อเราเลย พร้อมถามว่าจองห้องแบบมีห้องน้ำในตัวมาพร้อมมื้อเย็นและมื้อเช้านะ (อันนี้เขาแนะนำให้จองมื้อเย็นมาเพราะร้านอาหารที่เมืองนี้ปิดเร็ว) พอลงทะเบียนเสร็จเขาก็ให้แผ่นพับแนะนำโคยะซังมาเป็นภาษา 'ไทย' หรูไหมล่ะ เสร็จก็บอกเวลาต่างๆ มื้อเย็น 17:30 สวดมนต์เช้า 7:00 มื้อเช้า 7:30 ประตูใหญ่ปิด 18:00 แต่ประตูเล็กจะเปิด กลางคืนจะมีจุดเหล่านี้ที่เปิดไฟให้ไปดูได้ (ตอนเราออกไปพระเดินออกมาส่งด้วยความเป็นห่วงด้วย) เสร็จพาชมห้องน้ำรวมแต่บอกว่าคุณคงไม่ต้องใช้ พามาห้อง เปิดหน้าต่างอวดสวนญี่ปุ่น และเชิญจิบชาเขียวร้อนที่เตรียมไว้ให้พร้อมขนม โอ้ มันดีกว่าโรงแรมหลายที่เลยนะ
ห้องกว้างมากอีกแล้ว มีทีวี ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ที่เป่าผม ตู้เซฟ โต๊ะ เบาะ ผ้าเช็ดตัว ชุดนอนที่เขาบอกว่าใส่ไปกินข้าวได้นะ อุปกรณ์ในห้องน้ำพร้อม wifi อาจมาๆไปๆแต่โดยรวมก็ใช้ได้ทั้งวันซึ่งดีใจมากเพราะ pocket wifi ไร้ค่าอีกแล้ว โดยรวม อีกรอบ หรูกว่าหลายๆโรงแรมอีกนะ พอ 17:29 เขาก็โทรมาเรียกไปกินข้าว อย่างที่บอก มาอยู่วัดต้องเคารพเวลาเขาด้วย เขาวางตารางไว้เพราะเขามีกิจวัดที่ต้องทำหลายอย่าง อาหารที่นี่จะเป็นอาหาร shoji -ryori คืออาหารเจที่ไม่มีเนื้อสัตว์ หอม กระเทียม ส่วนมากจะมาเป็นเซ็ทตายตัว มีเทมปุระผัก เต้าหู้ ผักดอง ซุปมิโซะ สาหร่ายในน้ำส้มสายชู เส้นหมี่ ผลไม้ และอื่นๆอีกเพียบ คืออิ่มมากๆ เขาคงกลัวไม่อิ่มเพราะไม่มีเนื้อสัตว์เลยจัดเต็มมาสามถาด เรื่องรสชาติไม่ต้องกังวล คือเราชอบผักกับเต้าหู้อยู่แล้วแต่คนที่ไม่ชอบก็ไม่ต้องกลัวเพราะที่นี่เขาทำอาหารลักษณะนี้มากว่า 1,100 ปี ฉะนั้นเขามีความชำนาญมาก แถมไม่ต้องกลัวเขินถ้าจะกินเรียบสามถาดเพราะที่นี่ให้แขกแต่ละห้องกินในห้องส่วนตัว เรียบ
สวดมนต์เช้า สำหรับคนไทยมันอาจไม่ได้แปลกไปจากการฟังพระสวดมาก แต่มันก็รู้สึกดีที่ได้ตื่นเช้าลงมาฟังพระสวด แถมยังได้สายศีลและได้ไหว้พระต่างๆด้วย เสร็จก็กินข้าวเช้าต่อเลย มื้อเช้าไม่จัดเต็มเหมือนมื้อเย็น แต่ก็โอเคนะ เพราะมันเช้ามากสำหรับเรา ขอบอกว่าคนญี่ปุ่นกินข้าวเร็วมากคือเรากินไปครึ่งทาง เขาบ้ายบายแล้ว แต่ก็ดี ได้นั่งชิลล์ในห้องส่วนตัวต่อคนเดียว
มันเป็นการไปนอนวัดที่เรียบง่าย แต่ประทับใจมาก ใครมีโอกาสมาโคยะซังเราอยากขอแนะนำให้ลองดูนะคะ และถ้าได้อยู่ที่ Sekisho-in เรามั่นใจว่าจะประทับใจเหมือเรา