เหมืองโอซาริซาว่า

เผยประวัติศาสตร์ยาวนานใต้พิภพ

บรรดาเหมืองในอาคิตะทางเหนือนั้นเป็นเหมืองที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นและใหญ่ที่สุดในโ,กด้วย โอซาริซาว่าซึ่งเป้นหนึ่งในเหมืองขนาดใญ่ที่สุด มีประวัติศาสตร์ยายนานนับมาตั้งแต่ค.ศ. 708 เคยถูกใช้เป็นทั้งสถานที่หลบภัยของคริสเตียน แหล่งทำเงิน แหล่งทรัพยากรในสงครามโลกครั้งที่ 2 และในปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเดินชมประวัติศาสตร์

ด้วยเทคโนโลยีและสังคมที่เปลี่ยนไปทำให้ส่งผลกระทบต่อเหมืองโอซาริซาว่า แต่เดิมนั้นชาวญี่ปุ่นขุดดินเพื่อหาทองคำ ซึ่งก็หาได้เป็นจำนวนไม่มากนัก กล่าวกันว่าทองคำบางส่วนถูกนำไปใช้ที่ฮิไรซุมิของอิวาเตะ เป็นเมืองที่ตระกูลฟุจิวาระสร้างขึ้นมาเพื่อแข่งขันด้านความสวยงามกับเกียวโต ส่วนใหญ่ที่พบคือทองแดงซึ่งมีอยู่เต็มเหมือง ว่ากันว่ามหาพระพุทธรูปแห่งโทไดจิที่นารานั้นใช้วัตถุดิบจากเหมืองแห่งนี้ในการสร้าง การขุดในช่วงแรกนั้นใช้พลั่วกับแรงข้อศอกในการเจาะอุโมงค์และปล่องขนาดเท่าตัวคนในพื้นที่ภูเขา ในปี 1865 เริ่มมีการนำดินปืนมาใช้ตามชาวอเมริกันซึ่งสามารถระเบิดหินที่ใช้แรงมนุษย์ขุดเป็นสัปดาห์ ๆ ได้ภายในไม่กี่วินาที ผลผลิตเพิ่มจำนวนขึ้น เทคโนโลยีครั้งถัดไปมาพร้อมกับช่วงเริ่มต้นสงคราม เครื่องขุดเหมืองขนาดยักษ์กับเครื่องสกัดแร่ดิบพร้อมคนงาน 4,486 ชีวิตทำงานกันทั้งวันทั้งคืนเพื่อขุดแร่ให้ได้จำนวนเดือนละ 100,000 ตันในช่วงเวลาเดียวกับที่ญี่ปุ่นต่อสู้และครอบครองอำนาจในแปซิฟิคกับเเชีย เหมืองแห่งนี้ปิดตัวลงในปี 1978 จากแร่ที่หมดไปและราคาที่ตกฮวบ ปัจจุบันเหมืองแห่งนี้ยังเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อยู่

เหมืองโอซาริซาว่าตั้งอยู่ในป่าภูเขาอันสวยงามทางเหนือของอาคิตะ เมื่อคุณเห็นรถไฟเหมืองเก่าที่ลานจอดรถก็ถึงที่แล้ว ราคาตั๋ว 1000 เยนสำหรับผู้ใหญ่จะพาไปชมถ้ำใต้พิภพ พอเข้ามาแล้วจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นสองอย่าง คือตา่คุณจะพร่าขณะกำลังปรับให้เข้ากับความมืดด้านใน และคุณจะรู้สึกหนาวมาก ในเหมืองนั้นอากาศเย็นตลอด อย่าลืมเอาเสื้อคลุมติดตัวไปด้วย แม้จะเป็นหน้าร้อนก็ตาม ขณะกำลังเดินไปทั่วเหมือง มัคคุเทศกืหรือไม่ก็แผ่นพับของคุณจะอธิบายประวัติเหมืองแบกว้าง ๆ ผู้ครองอำนาจสมัยเอโดะพยายามขุดกำไรทุกเม็ดจากเหมืองแห่งนี้ คนงานทั้งชายและหญิงสกัดแร่ด้วยมือ หุ่นจำลองในเหมืองแสดงถึงวิธีการขุดแร่ของคนสมัยก่อนเทียบกับในปัจจุบันที่ใช้เครื่องมือเจาะและสวมหมวกนิรภัยในช่วงที่มิตซูบิชิ คอร์เปอเรชั่นเป็นเจ้าของเหมือง เหตุการณ์เด่นทางประวัติศาสตรือีกอย่างหนึ่งคือ "คริสเตียนกบดาน" ที่หลบหนีโทษมาอยู่ใต้ดิน แต่หลายคนก็กลายเป็นศพ ที่นี่ยังมีกางเขนอายุ 350 ปี สลักอยู่ในทางเดินหินแคบ ๆ ด้วย ผู้นับถือชินโตชาวญี่ปุ่นจะทำการสวดมนต์ภายในเหมืองเพื่อให้แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ อุโมงค์ถล่ม กับควันมรณะ ใกล้ ๆ กันนั้นมีการสร้างห้องเก็บสาเกใต้ดินขึ้น อุณหภูมิธรรมชาติที่เย็นอยู่ตลอดเวลานั้นพอ ๆ กับที่ใช้เก็บไวนืเลย เมื่อเดินไปประมาณสัก 30 หรือ 40 นาที คุณก็จะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

จากนั้นคุณก็จะเจอกับกิ๊ฟช็อป ร้านที่จัดแสดงและขายอัญมณีสุดงดงามแสนเลอค่าที่ได้มาจากบริเวณนั้น แล้วก็ยังมีพวงกุญแจ โปสต์การ์ด กับขนมท้องถิ่นให้เลือกเป็นของที่ระลึกมากมาย บางครั้งทางร้านจะมีชาให้ลองชิมฟรีด้วย ถ้าจ่ายเพิ่มคุณจะได้ลองเสี่ยงโชคหาทองดูได้ แล้วใครว่าที่เหมืองไม่มีทองคำเหลือล่ะ? เมื่อเดินเลยร้านไปในตึกจะพบกับคอนเทนเนอร์ตั้งเรียงรายที่มีน้ำกับโคลนอยู่ ถ้าจ่ายเพิ่มก็สามารถร่อนทองได้ ผมเจอกรวดเล็ก ๆ และหินสีเขียวสวยดี ในนั้นมีอยู่ทุกอย่าง ได้อะไรก็เอากลับไป รีบร่อนให้เร็วที่สุดภายในเวลาจำกัด 20 นาที ที่นั่นยังมีร้านอาหารเล็ก ๆ เปิดอยู่ด้วย

เหมืองโอซาริซาว่านั้นขึ้นรถบัสมาจากโมริโอกะ อิวาเตะ ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งบวกแท็กซี่อีกสิบนาที ถ้าขับรถมาจะดีที่สุด ที่นี่ตั้งอยุ่ห่างจากทะเลสาบโทวาดะไปหนึ่งชั่วโมง สิบห้านาที ขับรถมาสิบนาทีจากทางด่วนโทโฮคุ

เส้นทาง

Osarizawa Mine can be accessed by a one and half hour express bus ride from JR Morioka Station (Iwate Prefecture). Take the bus heading towards Odate City (大館行き) and get off at Kazuno-hanawa Station (鹿角花輪駅) bus stop. Or head to the station on your own using the rail network. The mine is a 10 minute taxi ride away. If driving, the tunnels are just a 10 minute drive off the Tohoku Expressway Kazuno-Hachimantai IC.

20
0
บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่
ช่วยเราพัฒนาเว็ปไซต์ JapanTravel.com
ให้คำติชมหรือข้อเสนอแนะ

แสดงความคิดเห็น

Thank you for your support!

Your feedback has been sent.