นับเป็นกุศโลบายที่แสนชาญฉลาดสำหรับการวางหมากในการเดินทางไปยังวนอุทยานเพื่อเข้าชมหุบเขานรก Owakudani (大涌谷) แม้การเดินทางจะทุลักทุเลขนาดไหน แต่ผู้คนทุกเพศทุกวัยต่างก็เดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ นั่นเป็นเพราะเหตุใด? การเดินทางมายังหุบเขาโอวาคุดานินั้นนอกจากจะมาโดยรถยนต์ได้แล้ว นักท่องเที่ยวยังสมารถเดินทางมาที่แห่งนี้ได้โดยซื้อแพคเกจการเดินทางที่ชื่อ Hakone Freepass แบบเหมาจ่าย ซึ่งสามารถหาซื้อได้ที่สถานี Odawara ราคา 3,900 円 การเดินทางจากสถานีนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 แบบหลักๆ ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของตัวผู้เดินทางเองว่าต้องการไปแบบไหน หากนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางทั้งไปและกลับได้ครบทั้งหมด 2 แบบ นับได้ว่าเป็นการเดินทางที่สมบูรณ์แบบที่สุดของการท่องเที่ยว ณ ที่แห่งนี้
แบบที่ 1.เริ่มต้นจากสถานี Odawara แล้วนั่งรถบัสเพื่อไปลงยังท่าเรือโมโตะ-ฮาโกเน่ ต่อด้วยเรือทัศนาจรโจรสลัดซึ่งมีอยู่ 2 ลำภายในเรือนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมความงามของทะเลสาบอาชิ (Lake Ashi) ได้ที่ดาดฟ้าของเรือ การเดินทางกินเวลานานถึง 30 นาทีจนไปสุดที่สถานีโทเง็นได (Togendai) แล้วนั่งกระเช้าลอยฟ้าไปลงยังสถานีโอวาคุดานิ (Owakudani) และเดินเท้าต่อไปยังหุบเขานรก
แบบที่ 2.เริ่มต้นจากสถานี Odawara เพื่อขึ้นรถไฟสาย Odakyu Railways ไปยังสถานี Hagone-Yamoto จากนั้นนั่งรถไฟไต่เขากินเวลาถึง 30 นาทีแต่ทัศนียภาพที่สวยงามและวิถีการเดินทางของรถไฟสายนี้นั้น ต่างเป็นที่น่าตื่นเต้นให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ไฮไลท์อยู่ที่คนขับรถไฟที่จะลงมาโบกไม้โบกมือในระหว่างการสับเปลี่ยนรางรถไฟพร้อมคำบรรยายที่สุดฮา แต่อาจจะไม่ฮาสำหรับคนที่ไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น ภาษาไม่ใช่อุปสรรคอย่างที่คิด เมื่อใดที่เห็นคนญี่ปุ่นหัวเราะให้หัวเราะตาม เพียงเท่านี้การเดินทางก็จะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป รถไฟสายนี้จะนำนักท่องเที่ยวไปสุดทางที่สถานีโกร่า (Gora) สถานีนี้มีรถราง (Cable Car) เพื่อไปขึ้นกระเช้าลอยฟ้าที่สถานี Sounzan กระเช้าลอยฟ้าจะพานักท่องเที่ยวลอยข้ามผ่านเหมืองกำมะถันที่แสนตระการตาเพื่อไปลงยังสถานีโอวาคุดานิ (Owakudani)
"ความเชื่อที่ว่ากินไข่ดำ 1 ฟองอายุยืนขึ้น 7 ปีแต่การได้เดินทางมาที่นี่ก็เปรียบเสมือนการพิสูจน์ร่างกายของคุณเองว่ายังพร้อมอยู่แค่ไหน" เพราะการจะเดินทางมาถึงยังที่แห่งนี้ต้องผ่านการเดินทางหลายรูปแบบ และการเดินขึ้นไปสู่จุดที่ต้มไข่ดำนั้น นักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าขึ้นเขากว่า20 นาทีถึงจะพบเป้าหมายที่แท้จริง จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมผู้สูงอายุถึงไม่ยี่หระที่จะมายังสถานที่แห่งนี้และกุศโลบายเหล่านี้นี่เองที่ทำให้คนญี่ปุ่นมีอายุขัยยืนยาวนับร้อยปี