เมื่อฉันตื่นมาตอนเช้าแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างห้องครัว ฉันก็พบกับปราสาทคุโจฮาชิแมน สำหรับฉันและคนของคุโจ มันคือสัญลักษณ์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม การก่อตั้งปราสาททอดอยู่บนรอยเท้าของป้อมปราการที่ถูกสร้างโดย เอนโด โมริคาสึในปี1556ในช่วงปลายสงคราม 30ปีต่อมา อินาบะ สะดามิชิได้ยึดบริเวณนี้และนำหินมาก่อเป็นหอคอยได้เสร็จสมบูรณ์ เอนโด สึเนะโทโมะซึ่งเป็นเจ้าที่ 6 ได้ปรับปรุงปราสาทหลังจากที่มันได้รับการรบรองจาก เอโดะ โชกูนาเตะ ในช่วง”การปฏิวัติของโฮยูเรกิ” ปี 1754-1758 ชาวนาได้ทำการประท้วงเรื่องภาษีข้าวที่สูงขึ้นจากนโยบายของ คานะโมริ โยริคาเนะ อย่างไรก็ตาม คานะโมริก็ไม่ได้ยอมรับข้อตกลงของชาวนา ทำให้ชาวนาต้องไปพึ่ง เอโดะ โชกูเนตให้ช่วย หลังจากได้ข้อตกลงที่เห็นด้วยกับชาวนา ทำให้ครอบครัวคะนาโมริหลุดออกจากโชกูเนาเตะ และรูปลักษณ์ทางการเมืองส่วนกลางบางอันก็ถูกเอาออกไปเช่นเดียวกัน
พูดกันว่ามีชาวนามาร่วมการปฏิวัติถึง 3,200 คนในช่วงเอโดะ และ การปฏิวัติของโฮยูเรกิก็เป็นเพียงครั้งเดียวที่ชาวนาได้รับการช่วยเหลือจากเอโดะโชกูนาเตะ บางครั้งฉันก็ครุ่นคิดประวัติศาสตร์ของคุโจในห้องครัวของฉัน
ตั้งแต่ที่คุโจนั้นสามารถเดินไปถึงได้ ฉันจึงสามารถเดินไปยังปราสาท การเดินเขาตามถนนที่ลมพัดผ่านเตือนฉันถึงเหตุผลที่คนยุคแรกสร้างปราสาทไว้บนภูเขา ก็เพื่อการป้องกันนั่นเอง การเดินเขานั้นเป็นเรื่องที่น่ากลัวน้อยกว่าการขับรถเล็กน้อยแต่ก็ทำให้เหนื่อยได้เช่นกัน ยิ่งยากถ้าใส่ชุดเกราะเดินขึ้น ถ้าคุณต้องการขับรถบนถนนทางเดียวที่แคบนี้ โปรดระวังจุดเลี้ยวหักศอกต่างๆที่และถนนบางครั้งก็ลื่น
เพื่อนฉันรออยู่ด้านบนเมื่อฉันขึ้นไปถึง กำแพงของเธอวางอยู่บนหินที่เป็นรากฐานขนาดใหญ่ เธอไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนฮิเมจิ แต่ก็มีความสวยที่ทำให้ฉันตะลึง พวกเรามองเมืองด้านล่างผ่านประตูรั้ว ส่วนโค้งของภูเขาที่ส่วนที่ไกลออกไปในหุบเขาและการไหลของแม่น้ำก่อเกิดรูปร่างของปลาให้เห็น สิ่งนี้อาจเป็นเรื่องบังเอิญ แต่คุโจก็เป็นที่โด่งดังในเรื่องของอายู(ปลาแม่น้ำ)
ปราสาทคุโจที่ฉันเห็นทุกวันถูกสร้างเมื่อปี1933 และกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีแผนภาพ, แบบจำลอง และวัตถุต่างซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ของปราสาท และพื้นที่แถวนั้น เมื่อขึ้นบันไดไปที่ชั้น 3 แล้วได้มองผ่านหน้าต่างออกไป ก็สามารถเห็นหุบเขาทั้งหมดได้ ในหนังสือ “ปราสาทสีขาว” นักนวนิยายประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง (ชิบะ เรียวทาโร่) ปี 1923-1996 ได้ยกย่องว่าปราสาทคุโจ-ฮาชิแมนเป็น “ประสาทบนภูเขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น” ฉันเห็นด้วยและรู้สึกภูมิใจที่ได้มองขึ้นไปเห็นมัน และเมื่อมองลงมาก็รู้สึกภูมิใจและประหลาดใจว่าเมืองขนาดเล็กนี้จะมีวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และชีวิต มากมายให้เล่าขาน
เมื่อถึงช่วงกลางคืน”ปราสาทสีขาว” จะสว่างไปด้วยแสงจ้า มีทั้งความภูมิใจ ประวัติศาสตร์และความปลอดภัย “ฝันดีเพื่อนเก่าที่สวยงาม” เจอกันใหม่ในช่วงเช้า