6:03 น. เป็นกำหนดรถไฟเข้าเทียบท่าสถานีอะโสะ ทีงัวเงียลุกขึ้นสวมเสื้อกันหนาวทับเสื้อชุดวันนี้ (ซึ่งใส่นอนไปเมื่อคืนนี้ เพราะกลัวว่าตื่นขึ้นมาแต่งตัวไม่ทัน) เพื่อนรุ่นพี่แจ่มใสรออยู่แล้วทั้งๆ ที่เมื่อคืนเป็นนกฮูกไปปาร์ตี้อยู่ ช่างมีพลังเหลือเกิน
เราจะอยู่ที่สถานีนี้จนถึง 8:50 น. คนที่จะไปดูปล่องภูเขาไฟขึ้นรถบัส คนที่ยังนอนหลับสบายอยู่จะตื่นสายได้ แล้วลงรถไฟไปรับประทานอาหารพร้อมพวกที่กลับมาจากการไปดูภูเขาไฟ
ภูเขาไฟที่อะโสะเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ตั้งอยู่กลางเกาะคิวชู ได้รับการขนานนามว่าภูเขาไฟฟูจิแห่งเกาะคิวชู
เดินทางออกนอกเส้นทางรถไฟทั้งที สายตาก็เปิดกว้างดูภูมิประเทศรอบตัว เส้นทางวกวนไต่ขึ้นเขาเตี้ยๆ เริ่มมองเห็นหมู่บ้านที่จากมาเล็กลงๆ แล้วก็เริ่มเห็นภูเขาและทะเลหมอก พร้อมกับแสงทองที่เริ่มเรื่อขอบฟ้าไกลๆ
หลายคนยอมทนหนาวออกไปสูดอากาศสดชื่นและสัมผัสกับกลิ่นอายของภูมิประเทศถิ่นภูเขาไฟ บางปล่องมีควันพวยพุ่งขึ้นมาบอกว่าใต้ผิวโลกยังร้อนและอัดแน่นด้วยพลังงาน ดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นช่วงเดินทาง
ภูเขาลูกเล็กยอดแหลม มีแอ่งน้ำกลมๆ อยู่ด้านหน้า กับภูเขาไฟเหมือนขนมครกทรงกระทัดรัด มองอีกทีก็เหมือนกับเหาะขึ้นไปใกล้ยอดเขาแล้วมองปล่องภูเขาไฟฟูจิ ภูสองลูกนี้เป็นดาราหน้ากล้องแทบทุกกล้อง
อิ่มตา และรับไอเย็นกันเข้าไปเต็มที่แล้วก็เดินทางกลับมาสถานีเพื่อรับประทานอาหารเช้า
อีกหลายเดือนต่อมา ภูเขาไฟเกาะคิวชูระเบิด ทำความเสียหายให้กับหลายชุมชน ไม่ว่ามนุษย์จะเชื่อว่าตัวเองยิ่งใหญ่แค่ไหน นานๆ ครั้งธรรมชาติก็มาเตือนว่าเราอยู่กับธรรมชาติ จะปู้ยี่ปู้ยำธรรมชาติโดยรอบอย่างไร แต่เมื่อถึงเวลาดิน น้ำ ไฟ ลม ก็จะมาเตือนในรูปแผ่นดินไหว น้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิด และพายุรุนแรง เพื่อถามว่าใครกันแน่ที่เป็นใหญ่
บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่
ช่วยเราพัฒนาเว็ปไซต์ JapanTravel.com