ร้านมิสุโนะ โอโคโนมิยากิ (Mizuno Okonomiyaki) ร้านโอโคโนมิยากิเก่าแก่ ก่อตั้งขึ้นหลังยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (ค.ศ.1945) ร้านแห่งนี้เป็นร้านแบบกิจการในครอบครัว ที่ลูกหลานสืบทอดสูตรและบริหารงานต่อกันมาเป็นรุ่นๆ ปัจจุบันร้านแห่งนี้ได้รับการดูแลและบริหารงานโดยหลานของผู้ก่อตั้ง ซึ่งถือเป็นรุ่นที่ 3
ร้านตั้งอยู่ที่ย่าน Dotombori ใกล้กับสถานี Namba หากเดินเข้าตรอกร้านบะหมี่มังกร จะพบร้านจะตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือ หากเดินทางมาโดยรถไฟใต้ดิน ให้ใช้ทางออกหมายเลข B20 แล้วเลี้ยวซ้ายเดินเข้าซอยแรกที่เจอจะพบร้านด้านขวามือ
การมองหาที่ตั้งของร้านนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะสามารถสังเกตได้จากแถวที่ต่อกันยาวเหยียดหน้าร้านตลอดเวลาจนกระทั่งร้านปิด ร้านแห่งนี้โด่งดังในเรื่องของโอโคโนมิยากิ หรือพิซซ่าญี่ปุ่น โดยมีเมนูอยู่ทั้งหมด 5 แบบดังนี้
- Yamaimo-Yaki หรือที่หลายคนเรียกกันว่าโอซาก้าสไตล์ คือนำทุกอย่างมาผสมกันก่อนแล้วค่อยเทลงในเตา ในเมนูนี้ลูกค้าสามารถเลือกท็อปปิ้งได้สองอย่าง แต่ที่คนนิยมกันที่สุดจะเป็นหอยเชลล์ขนาดยักษ์ สนนราคาของโอโคโนมิยากิประเภทนี้ 1,620 เยน
- Mizuno-Yaki จะเป็นแบบทั่วไป ที่มีส่วนผสมทั้งเนื้อหมู เนื้อ ปลาหมึก กุ้ง และหอยเชลล์ ซึ่งแบบนี้จะเป็นแบบฮิโรชิม่าสไตล์ คือทำเป็นชั้นแล้วนำแต่ละชั้นมารวมกัน ราคา 1,405 เยน
- Negi-Yaki เป็นโอโคโนมิยากิแบบแป้งแผ่นบาง จุดเด่นของประเภทนี้คือ ใช้ต้นหอมญี่ปุ่นขนาดยักษ์โรยและค่อยๆใช้ความร้อนทำให้ต้นหอมสุก อ่อนตัวและนุ่ม กินคู่กับกิมจิและเนื้อหมูที่โรยหน้า สนนราคา 1,025 เยน
- Modan-Yaki มีเส้นโซบะและไข่เป็ดตอกลงบนหน้า ทำให้รสชาติกลมกล่อม ราคา 1,135 เยน
- Amakara-Yaki แป้งบางๆผัดต้นหอมและเนื้อ ราคา 920 เยน
ผมลองสั่งแบบแรกโดยเลือกท็อปปิ้งเป็นหอยเชลล์และกุ้ง ผมพบว่า Yamaimo-Yaki จะมีลักษณะกึ่งเหลวเล็กน้อย ไม่สามารถตักเป็นชิ้นๆได้เหมือน Mizuno-Yaki รสชาติของโอโคโนมิยากินั้นอร่อยกลมกล่อมดี หอยเชลล์และกุ้งมีขนาดใหญ่และสดมาก แม้ว่าโอโคโนมิยากิที่ร้านแห่งนี้มีราคาสูงกว่าร้านอื่นๆ แต่ถ้าเทียบคุณภาพของอาหารกับราคาแล้วผมว่าค่อนค้างเหมาะสมกันเลยทีเดียว ที่ร้านมีเมนูภาษาอังกฤษลูกค้าจึงไม่ต้องกังวลในเรื่องการสั่งอาหาร ร้านมีทั้งหมด 2 ชั้น ชั้นล่างจะเป็นโต๊ะแบบเคาน์เตอร์สำหรับคนมาทานคนเดียวหรือคนมาทานเป็นคู่ จะเห็นเซฟทำโอโคโนมิยากิอยู่ตลอดเวลา ส่วนชั้นบนจะเป็นที่นั่งแบบโต๊ะ มีที่นั่งเป็นสัดส่วน ซึ่งมีเชฟมาทำให้หน้าโต๊ะเช่นกันแต่จะไม่เห็นโอโคโนมิยากิของโต๊ะอื่นว่าที่เค้าสั่งกันหน้าตาเป็นอย่างไร
ถ้าคุณอยากลองทานโอโคโนมิยากิดั้งเดิมแบบฉบับเมืองโอซาก้า ทำไมไม่ลองมาทานที่ร้านแห่งนี้ดูล่ะครับ?