การแช่ออนเซนในวันอากาศเย็นๆ มีฉากหลังเป็นภูเขาที่ถูกแม่น้ำโอบล้อมคงเป็นความฝันของใครหลายๆคน และเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ฉันอยากลองให้ได้สักครั้งเมื่อมาเยือนเมืองที่มีชื่อเสียงด้านออนเซนเป็นลำดับต้นๆของภูมิภาคคันโต อย่างเมืองคินุกาวะแห่งนี้ และเหมือนโชคชะตาเป็นใจ ฉันมีโอกาสได้มาพักที่ Kinugawa Park Hotels โรงแรมที่มีประวัติยาวนานตั้งอยู่ริมแม่น้ำสายหลักของเมือง เดินเพียง 5 นาทีจากสถานี Kinugawa Onsen
ตอนแรกที่เห็นทางเข้าโรงแรมก็แอบคิดว่า น่าจะเป็นโรงแรมเรียวกังเล็กๆที่ดูร่มรื่นกระมัง แต่เมื่อเดินไปถึงชั้น Lobby ก็พบว่า เป็นโรงแรมที่กินบริเวณกว้างทีเดียว มี 4 ตึกใหญ่ สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้หมด ความประทับใจแรกของฉันนั้นไม่ได้ฉาบฉวยเพียงความงามภายนอกโรงแรม แต่เป็นรอยยิ้มจากกลุ่มพนักงานในชุดกิโมโนและสูทอย่างดี ที่ทำการต้อนรับอย่างอบอุ่นตั้งแต่ก่อนฉันจะเดินไปถึงล้อบบี้เสียอีก ความกระตือรือร้นให้ความช่วยเหลือของทุกคนที่นี่ทำให้ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางของฉันหายไปในทันที พนักงานต้อนรับสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้บ้าง ทำให้สิ่งต่างๆเป็นไปอย่างราบรื่น จังหวะที่ฉันเช็คอินนั้นเป็นเวลาเดียวกับที่ผู้จัดการของโรงแรมกลับเข้ามาพอดี เขาจึงพาเดินชมโรงแรมและพื้นที่โดยรอบให้เป็นกรณีพิเศษ
ที่นี่มีห้องพัก 4 แบบด้วยกัน คือ
- Kirakukan เป็นห้องพักสไตล์ญี่ปุ่น สามารถมองเห็นวิวของสะพาน Tateiwa ที่ทอดข้ามแม่น้ำคินุกาวะสีฟ้าใสได้อย่างใกล้ชิด
- Kino-yakata เป็นห้องพักสไตล์ญีปุ่นอีกเช่นกัน แต่มีการตกแต่งทันสมัยกว่าโดยเน้นโทนสีเดียวกันทั้งห้อง ไม่ว่าจะเป็นชุดเครื่องนอน ห้องรับแขก ห้องน้ำ รวมถึงของใช้ในห้อง
- Kishintei เป็นห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นแบบหรูหรา ชื่อห้องแต่ละห้องถูกตั้งตามชื่อดอกไม้และชื่อเดือน(มกราคม-มิถุนายน) ภายในถูกดีไซต์อย่างเรียบง่าย สบายตา จุดที่น่าสนใจคือ เพดานด้านบนที่เพ้นเป็นรูปดอกไม้ตามเดือน/ฤดูกาลนั้นๆ เมื่อเปิดไฟจะเล่นแสงอย่างสวยงามทีเดียว
- Park Cottage เป็นห้องพักแนวตะวันตกเหมาะสำหรับคู่รักหนุ่มสาวที่หลีกหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนแบบส่วนตัว ในราคาไม่แพงจนเกินไป ทั้งยังได้อิ่มเอมกับบรรยากาศและได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุดๆ (ตอนเช้าได้ยินเสียงนกร้อง มีแสงแดดสาดส่องบนผิวน้ำจนเป็นประกาย ในขณะที่ ตอนกลางคืนจะได้ยินเสียงแม่น้ำ)
(Kino-yakata และ Kishintei ได้รับความนิยมมากเพราะมีออนเซนแบบส่วนตัวกลางแจ้ง เห็นวิวแม่น้ำคินุกาวะ สำหรับผู้ที่เข้าพักห้องสไตล์อื่นก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะเค้ามีออนเซนส่วนกลางถึง 6 แบบให้ใช้ได้ฟรี ถ้าใครอยากได้ประสบการณ์แช่ออนเซนแบบส่วนตัว แนะนำให้ลอง Private Onsen แบบ Open Air ค่ะ)
เซตอาหารทั้งมื้อเช้าและมื้อเย็นของที่นี่ เป็นอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ใช้วัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น บรรจงปรุงโดยพ่อครัวฝีมือดีและตกแต่งอย่างงดงาม(จนไม่กล้าหยิบขึ้นมาทานเลยล่ะค่ะ) ในเซตหนึ่งๆนั้น จะรวมเอารสชาติของฤดูกาลทั้งสี่ไว้ และในแต่ละมื้อ ผู้เข้าพักจะเปลี่ยนสถานที่ทานอาหารไปเรื่อยๆ เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศในมุมต่างๆภายในโรงแรมอย่างครบถ้วน พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ประสบการณ์การทานอาหารแต่ละมื้อของที่นี่นั้นเรียบง่ายแต่กินความหมายลึกซึ้งค่ะ
หากคุณกำลังมองหาที่พักสงบๆเพื่ออิ่มเอมกับธรรมชาติ พรั่งพร้อมไปด้วยมุมสวยๆ อาหารรสเลิศ อยู่ล่ะก็ Kinugawa Park Hotels เป็นคำตอบของคุณค่ะ
วิธีเดินทาง : จากสถานี Tobu Nikko เปลี่ยนสายที่สถานี Shimo-Imaichi มาลงที่สถานี Kinugawa Onsen ใช้เวลารวมกัน 30 นาที (หากมาจากโตเกียว ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.ครึ่ง)