วงแหวนหินโอยุ

อารยชนที่สูญหายไปเนิ่นนานล้วนได้รับการระลึกถึงสิ่งที่เคยสรรค์สร้าง อียิปต์มีปิรามิด จีนมีกำแพงเมืองจีน อารยชนแรกสุดของญี่ปุ่นคือโจมอนซึ่งได้ฝากเครื่องปั้นดินเผาโบราณกับวงแหวนหินอันยิ่งใหญ่เอาไว้ เผ่าโชมอนส่วนมากตั้งรกรากทางตอนเหนือของญี่ปุ่นในภูมิภาคโทโฮคุ วงแหวนหินจุดหนึ่งที่อยู่มาจนถึงปัจจุบันคือโอยุในจังหวัดอาคิตะ กล่าวได้ว่าเป็นวงแหวนหินของญี่ปุ่นที่ยิ่งใหญ่เทียบเท่าสโตนเฮนจ์ แต่ความทรงคุณค่าและสเน่ห์อันลึกลับของมันก็อยู่มาเป็นเวลาหลายพันปี

วงแหวนหินในญี่ปุ่นนั้นจะแตกจ่างไปจากแห่งอื่นที่พบทั่วโลก การออกแบบวงแหวนหินคือสิ่งที่ตราตรึงใจมากที่สุด มีความกว้างใหญ่ไพศาล แต่ด้วยความเตี้ยของหินก็ไม่ควรมาชมในฤดูหนาวเพราะจะได้เห้นกองหิมะแทนวงแหวนหิน จุดนี้คือสิ่งที่ไม่เหมือนกับหินแนวตั้งขนาดยักษ์ของสโตนเฮนจ์และที่อื่น ๆ ทั่วโ,ก วงแหวนหินสองจุดในบริเวณนี้มีอายุกว่า 4.000 ปีแล้ว แต่ละวงก้จะมีเสายักษ์กลางพร้อมหินเรียบแผ่รัศมีออกจากจุดศูนย์กลางใหเป็นรูปวงกลมขนาดใหญ่เหมือนนาฬิกาแดด หินถูกขนมาจากแม่น้ำอะคูยะที่อยู่ห่างไปไม่ถึง 5 กิโลเมตรเพื่อนำมาสร้างวงแหวน โนนะคาโดะ หนึ่งในหวงแหวนหิรมีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 42 เมตร ส่วนมันซะที่อยู่ด้วยกันนะขนาด 48 เมตรถ้ามองจากด้านบนทั้งสิงจุดจะดูเหมือนภาพโมเสคมาก

ยังมีการถกเถียงกันอยู่ว่าวงแหวนหินใช้ทำอะไรกันแน่ วงแหวนหินโอยุมีรูปเป็นนาฬิกาแดด แสดงให้เห็นให้เห็นการจัดพิธีกรรมทางโหราศาสตร์ นักวิจัยหลายคนเชื่อว่าวงแหวนหินเป็นสถานที่บูชาทางศาสนา  สาสนาพื้นเมืองของญี่ปุ่นนั้นเชื่อในเรื่องความผูกพันระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ ผู้สร้างสถานที่แห่งนี้ได้เลือกพื้นที่ทุ่งเพื่อสร้างหินและโครงสร้างพยุงพร้อมกับทิวทัศน์สีเขียวและภูเขาสุดสวยอยู่ในระยะสายตา และยังมีการเสนอแนวคิดว่าวงแหวนหินอาจจะใช้เป้นสถานที่ชุมนุมในวงสังคมหรือเป็นสุสานเพราะมีการพบศพในบริเวณนั้นหรือใกล้ ๆ ในฤดูหนาววงแหวนหินจะถูกหิมะปกคลุมหนาหลายฟุต แม้จะมีการพบเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันใกล้วงแหวนหิน แต้ไม่พบร่องรอยการอยู่อาศัย นักวิชาการจึงสันนิษฐานว่ากลุ่มหินเหล่านี้ถูกใช้เพื่อประกอบพิธีกรรม อาจจะเพื่อขอให้พืชผลเก้บเกี่ยวงอกงามหรือล่าสัตว์ได้เยอะ ซึ่งตามจริงแล้วที่นี่คงจะถูกใช้เพื่อทำอะไรหลายอย่างโดยโชมอนหลายเผ่าในเวลานับหลายร้อยปีที่เลยผ่าน ถ้าอยากจะเข้าใจให้ชัดเจนขึ้นว่าเหล่าผู้สร้าวงแหวนหินใช้ชีวิตประจำวันกันอย่างไรก็ให้เข้าไปดูในพิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์โจมอนนั้นมีสุดยอดแห่งนิทรรศการ แม้ว่าทุกสิ่งในนี้จะเป็นญี่ปุ่นล้วน ต่อให้ภาษาญี่ปุ่นของคุณจะสนิมกิน แต่ก้ยังสามารถเพลิดเพลินกับวงแหวนหินหรือที่อยู่อาศัยโบราณจำลองได้อยุ่ มีการนำเครื่องมือเครือ่งใช้กับเครื่องปั้นดินเผาของจริงมาจัดแสดงด้วย ชิ้นงานศิลปะนั้นบ่งบอกถึงวิถีชีวิตประจำวันของผู้คนในหมู่บ้าน ที่ส่วนสุดท้ายของพิพิธภัณฑ์คือปริศนามหาสนุก ให้คุณประกอบหม้อสมัยโจมอนที่แตกออกให้ทันก่อนมันสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นนน้อย

ส่วนที่เหลือของตัวอาคารนั้นก็เข้าใชได้ฟรี มีห้องสมุดที่เต็มไปด้วยหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น วิดีโอเกี่ยวกับวงแหวนหิน กับห้องศิลปะและงานฝีมือที่ใช้จัดกิจกรรมเป็นบางโอกาส แล้วก็มีของที่ระลึกให้ซื้อ

โบราณสถานซันไน-มารุยาม่าก็เป็นสถานที่ห้ามพลาดอีกแห่งในโทโฮคุสำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์โจมอน