เปิดประตูสู่ซันนิน

ร่วมค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวที่ซ่อนอยู่ของภูมิภาคซันนิน ผ่านทางวิดิโอนี้ที่จะพาทุกท่านไปรู้จักกับสถานที่ยอดนิยมต่างๆในชิมาเนะ และทตโตริ

เรือสำราญโฮริคะวะ และหมู่บ้านซามุไร

ถึงแม้ว่าคูเมืองนี้จะถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1611 แต่เรือทัวร์โฮริคะวะเพิ่งเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ.1997 โดยเรือทัวร์นี้จะล่องตามแม่น้ำโฮริ ผู้โดยสารจะสามารถเห็นปราสาทมัตสึเอะ และจุดต่างๆรอบเมืองปราสาทแห่งนี้ ซึ่งเมื่อผ่านแต่ละหัวหน้าทัวร์ประจำเรือจะชี้ไปที่จุดๆนั้นพร้อมบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เช่น หมู่บ้านซามุไร สิ่งที่น่าจะเป็นความตื่นเต้นอย่างหนึ่งของการล่องเรือทัวร์โฮริคะวะคือสะพานที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความสูงที่ไม่มากนัก ซึ่งเรือจะต้องล่องผ่านทั้ง 16 สะพานนี้ด้วยกัน และมีสะพานบางแห่งที่โครงสร้างต่ำมากๆ จนทำให้หลังคาของเรือจำเป็นต้องต่ำลงด้วย และขณะที่เรือล่องลอดใต้สะพานต่ำเหล่านี้ ผู้โดยสารทุกคนจึงจำเป็นต้องก้มศีรษะไปพร้อมกัน และไม่ว่าจะเป็นฤดูใดก็ตามที่คุณเลือกที่จะมาล่องเรือที่นี่ ผู้โดยสารทุกท่านจะได้ดื่มด่ำไปกับของขวัญจากธรรมชาติ ทั้งในฤดูใบไม้ผลิที่เสมือนโดนสะกดจิตด้วยดอกซากุระที่กำลังบานสะพรั่ง หรือช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงอร่าม จนไปถึงฤดูหนาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและทัศนียภาพอันเงียบสงบ ทั้งนี้ถ้าคุณได้มาเยือนที่นี่ในฤดูหนาว เจ้าหน้าที่จะเตรียมผ้าห่มและโต๊ะอุ่นคอยให้บริการ เพื่อให้คุณได้รู้สึกอบอุ่นตลอดเวลาที่ล่องเรืออีกด้วย

ปราสาทมัตสึเอะ

ในปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นมีปราสาทดั้งเดิมหลงเหลืออยู่เพียง 12 แห่งเท่านั้น และจากจำนวนนี้มีเพียง 5 ปราสาทเท่านั้นที่ถูกกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติ ซึ่งปราสาทมัตสึเอะถือเป็นหนึ่งในนั้น ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้น ในปี ค.ศ. 1611 เป็นป้อมปราการที่เอาไว้ต้านทานศัตรูในช่วงศึกสงคราม ด้วยเหตุนี้ปราสาทมัตสึเอะจึงมีรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งมากกว่าที่จะดูสวยงามเหมือนปราสาทอื่นๆ ถึงกระนั้นปราสาทแห่งนี้ไม่เคยถูกคุกคามหรือโจมตีและยังผ่านช่วงเวลากวาดล้างปราสาทเมื่อระบอบแบ่งแยกดินแดนของญี่ปุ่นสิ้นสุดลง โดยที่คนเมืองและผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องได้รวมตัวกันซื้อสิทธิและได้รับการจัดการของปราสาท ที่ด้านบนสุดของปราสาทมัตสึเอะ สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองและพื้นที่โดยรอบของปราสาทที่มีศาลเจ้าอินาริ ผนวกกับการแกะสลักสุนัขจิ้งจอกขนาดเล็กกว่า 2,000 ตัว อีกด้วย

เนื้อวัวทตโตริ

ถึงแม้ว่าเนื้อวัวโกเบจะเป็นเนื้อที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด แต่เนื้อวัวทตโตริก็มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน วัวส่วนใหญ่ที่เลี้ยงในญี่ปุ่นจะมีเนื้อที่เป็นสีดำ ซึ่งเนื้อโกเบและเนื้อทตโตริก็เช่นเดียวกันแม้จะมาจากสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน ในช่วงต้นค.ศ. 1918 ทตโตริได้จดทะเบียนเนื้อวัวของตัวเองกับสมาคมวากิว(เนื้อวัว)ของประเทศญี่ปุ่น เนื้อที่มีค่ามากที่สุดจากทตโตริคือเนื้อวากิว โอเลอิค 55 ซึ่งมาจากปริมาณกรดโอเลอิคในเนื้อวัว 55% ความพิเศษนี้ทำให้เนื้อทตโตริเสมือนมีเครื่องหมายการค้าว่าเนื้อสัมผัสเมื่อทานเข้าไปแล้วแทบจะละลายในปากได้เลย ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาวัฒนธรรมเนื้อวากิวของทตโตะริ ได้ถูกยกย่องว่าเป็นเนื้อที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์, นุ่ม และมีรสสัมผัสที่บ่งบอกความเป็นเนื้อชั้นดีชวนน้ำลายสอแห่งเมืองทตโตริได้เป็นอย่างดีจนถึงปัจจุบัน

อ่านเพิ่มเติม >