เช้านี้เรา 2 คนต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปชมสวน Korankei โดยก่อนมาได้ตรวจสอบเวบแล้วคาดว่าน่าจะเป็นช่วงพีคของที่นี่พอดี สวนนี้อยู่ในเมือง Asuke ใกล้กับ Nagoya การเดินทางก็ไม่ยากแค่นั่งรถไฟในเมือง Nagoya ประมาณ 40 นาทีไปลงที่สถานี Higashi Okazaki เพื่อต่อบัสอีกชั่วโมงนึงตรงไปที่สวนได้เลย ใช้เวลาไม่นานเราไปถึงที่นั่นค่อนข้างเช้า แต่ก็ยังสู้คนญี่ปุ่นไม่ได้ มากันเช้ามากๆ สำหรับคิวรถบัสไม่ต้องหานาน ป้ายที่มีคนต่อคิวยาวที่สุดนั่นแหละ แต่ถ้าสงสัยถามนายสถานีได้ ใจดีทุกคน แต่เรายังไปไม่ได้ต้องรอเพื่อนอีกคนที่เพิ่งบินมาและจะมาเจอเราที่นี่ หลังจากรอเกือบชั่วโมงและพลาดรถบัสเที่ยวแรกไป พวกเราก็กระวนกระวายเพราะติดต่อเพื่อนไม่ได้ รู้แค่ว่ารถไฟมีปัญหา ซักพักนึง เราก็เห็นผู้ชายญี่ปุ่นคนนึงวิ่งกระหืดกระหอบมาที่เราพร้อมกับชี้ไปข้างหลัง แล้วเพื่อนเราก็โผล่มาด้วยหน้าซีดเซียว ผู้ชายญี่ปุ่นคนนั้นเห็นว่าเราเจอกันแล้ว เค้าทำหน้าดีใจมากแล้วก็จากไป พวกเราได้แต่ขอบคุณแบบงงๆ จนเพื่อนเราอธิบายว่ารถไฟที่มาเสียต้องเปลี่ยนขบวนแล้วคนนี้ช่วยพาเค้ามาส่งถึงที่โดยที่สื่อสารกันคนละภาษา ถือเป็นโชคของเพื่อนเรา เสร็จแล้วจึงรีบขึ้นบัสไปโดยเร็ว ระหว่างทางไปพบว่ารถติดมากๆ และทุกคนลงที่นี่เกือบหมด ภาพแรกที่เราเห็นหลังจากข้ามถนนไปถึงกับทำให้ตะลึงเพราะทั้งเขานั้นเหมือนถูกย้อมด้วยสีแดง ของจริงสวยกว่าที่เห็นในเวบมากมาย หลังจากถ่ายรูปบนสะพานด้วยความเพลิดเพลิน พวกเรารีบเดินเข้าไปแล้วพบว่าบรรยากาศข้างในท่ามกลางใบไม้หลากสีนั้นสวยงามมาก มองไปทางไหนทุกคนก็มีความสุขกับการถ่ายภาพ อาจเป็นเพราะเมืองไทยไม่มีแบบนี้ก็ได้ เสียดายที่ฟ้าหม่นไปหน่อย นอกจากนี้เส้นทางเดินก็ไม่ลำบาก ถ้าอยากลงไปเดินใกล้แม่น้ำก็ทำได้ อีกทั้งเมื่อเดินสุดทาง ยังมีร้านอาหารเรียงรายรอรับนักเดินทางกระเพาะว่างอีกด้วย พวกเราก็ไม่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าผิดหวัง ด้วยการเติมพลังที่ร้านอาหารติดริมน้ำ การได้ทานอาหารร้อนๆกับอากาศหนาวๆนี่เข้ากันดีจริงๆ คุณเห็นด้วยมั๊ย อีกทั้งถ้าได้เดินลึกเข้าไปจนสุดทางยังมีตลาดนัดย่อมๆที่พวกเราชื่นชอบกับของท้องถิ่นที่พวกเค้านำมาขายด้วย หลังจากละลายเงินเยนซักพักแล้วพวกเราก็เดินกลับอีกทางหนึ่งซึ่งสวยงามไม่แพ้กัน ระหว่างยืนรอรถบัสแม้ทางจะแคบแต่เค้าก็จัดการอย่างเป็นระเบียบ คิดในใจว่าถึงต้องรอนานก็ทนได้เพราะพวกเราเก็บเกี่ยวความสุขตลอดเช้ามาเต็มกระเป๋าแล้ว แต่พอเห็นรถมาพร้อมคนเท่านั้น พวกเราก็ได้แต่มองหน้ากันเพราะนั่นหมายถึงว่าพวกเราต้องยืนตลอดทางเป็นชั่วโมงไปจนถึงสถานีน่ะสิ
เพลิดเพลินกับใบไม้แดงที่ Korankei
เดินทอดน่องสู้ลมหนาวที่ Korankei, Asuke