ฮาจิโกะเรื่องราวของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่ถูกกล่าวถึงไปทั่วโลก ฮาจิโกะเป็นสุนัขอาคิตะสายพันธุ์แท้ที่จะไปรอเจ้านายของมันกลับจากทำงานที่หน้าสถานีชิบูยะทุกวัน จนกระทั่งเจ้านายของมันได้เสียชีวิตลงเนื่องจากเส้นโลหิตในสมองแตกในวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1925 แต่ฮาจิโกะไม่รู้เลยว่าเจ้านายของมันได้จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ฮาจิโกะยังคงกลับไปรอ ณ จุด ๆ เดิม ที่ที่มันจะเจอเจ้านายของมันกลับมาเหมือนกับทุกวันแต่ก็ไร้ซึ่งวี่แว่ว แต่ฮาจิโกะก็ยังคงเฝ้ารอเจ้านายของมันตลอดเป็นระยะเวลา 10 ปีจนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิต
ข่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปถึงเรื่องราวของสุนัขผู้ซื่อสัตย์และได้มีการเล่าเรื่องราวในรูปแบบของหนังสือสำหรับเด็กจนกระทั่งถูกแพร่หลายออกไปทั่วโลก แต่สิ่งที่หลาย ๆ คนไม่รู้ก็คือมีพิพิธภัณฑ์ที่ทำขึ้นมาเพื่อระลึกถึงเรื่องราวของฮาจิโกะที่เมืองโอดาเตะ จังหวัดอากิตะ
พิพิธภัณฑ์ถูกก่อตั้งขึ้นโดยสมาคมเพื่อการอนุรักษณ์สุนัขพันธุ์อาคิตะ ซึ่งเป็นสมาคมที่คอยดูแลเกี่ยวกับการเพาะพันธุ์และรักษาสายพันธุ์อาคิตะแท้จากการแพร่หลายของสายพันธุ์ผสม สุนัขอาคิตะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางธรรมชาติของญี่ปุ่นและตัวพิพิธภัณฑ์เองก็ถูกสร้างขึ้นในวันครบรอบ 50 ปีวันก่อตั้งสมาคม
ด้วยค่าเข้าเพียง 100 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 50 เยนสำหรับเด็กนั้น คุณจะได้รับความรู้เกี่ยวกับสุนัขพันธุ์อาคิตะ ทั้งในรูปแบบรูปภาพ เอกสารและทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณควรจะรู้เกี่ยวกับสุนัขสายพันธุ์นี้ ในฐานะที่เป็นสุนัขสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น บรรบุรุษของมันได้ถูกใช้ในการตามรอยกวางและหมีสำหรับการล่าสัตว์ อีกทั้งขนแบบสองชั้นของมันเหมาะกับฤดูหนาวที่หนาวเย็นและยาวนานของโทโฮคุและยังทำให้มันดูน่ารักฟูฟ่อง และคุณเองก็ยังจะได้เรียนรู้ถึงความซื่อสัตย์และเชื่อฟังอย่างถึงที่สุดของสุนัขสายพันธุ์นี้ นอกจากนี้ด้วยการที่อาคิตะเป็นสุนัขที่ไม่ค่อยเห่ายังทำให้มันเป็นที่รักของชาวญี่ปุ่นหลาย ๆ คนที่ชอบในความสงบและนิ่งโดยเหมือนธรรมชาติและวัฒนธรรมของพวกเขา สุนัขพันธุ์อาคิตะยังเป็นสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดของสุนัขญี่ปุ่นอีกด้วย ด้านนอกของพิพิธภัณฑ์คือสุนัขอาคิตะตัวเป็น ๆ ที่มาอวดโฉมให้ผู้เยี่ยมชมทุกคนได้เห็น พิพิธภัณฑ์จะเปิดตั้งแต่ 9 โมงเช้า - 4 โมงเย็น บางทีที่พิพิธภัณฑ์ปิดเร็วคงเพื่อจะให้ผู้ดูแลกลับบ้านเพื่อพาสุนัขไปเดินเล่นก็ได้?
ในความคิดผม สุนัขที่นั่งอยู่ข้างนอกนั้นเป็นตัวอย่างสายพันธุ์ที่สวยงามมาก ขนสีขาวราวกับหิมะ หูตั้งตรงสวย มันช่วยไม่ได้เลยที่จะรู้สึกว่ามันช่างน่าดึงดูดใจจริง ๆ
พิพิธภัณฑ์อยู่ที่ชั้น 3 ของตึกสมาคมเพื่อการอนุรักษณ์สุนัขสายพันธุ์อาคิตะ โดยที่ชั้น 1 จะเป็นสำนักงานของสมาคมและชั้น 2 สำหรับการสัมนา พิพิธภัณฑ์อยู่ห่างจาก โรงแรม Crown Parais Shuhoku โดยเดินมาเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น หรือจากสถานีปลายทางรถเมล์ชูโฮกุ หรือเดินมา 18 นาทีจากฮิกาชิ โอดาเตะหรือสถานีโอดาเตะตรงอูชุไฮเวย์