สวน Yoshikien ในนารา

ชมความงามของสวนญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ร่วง

สวนญี่ปุ่นนั้นมีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวไม่มีใครเหมือน เป็นสวนที่มีการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ละเอียดลออ ในทุกๆ จุด ตั้งแต่สิ่งเล็กสิ่งน้อย เช่น เม็ดทราย ตระไคร่น้ำ ก้อนหิน สายน้ำ ไปจนถึงส่วนประกอบหลักใหญ่ๆ เช่น สะพาน โคมไฟหิน โรงน้ำชา ศาลาพักผ่อน ไม่มีจุดไหนที่ไม่ผ่านสายตาอันเฉียบคมของคนออกแบบสวน และผ่านมืออันเชี่ยวชาญของคนทำสวน แต่สวนญี่ปุ่นกลับดูเป็นธรรมชาติอย่างสูงสุด เป็นงานสร้างสรรของมนุษย์ที่ใช้สายตาและหัวใจของธรรมชาติโดยแท้จริง

สวนโยะชิกิเอ็น (Yoshikien) ในนารา เป็นตัวอย่างที่ดีของสวนญี่ปุ่น สรรสร้างอย่างละเอียดอ่อน แต่งแต้มอย่างพิถีพิถัน และใกล้ชิดกับธรรมชาติ ชื่อโยะชิกิเอ็น (Yoshikien) นี้ได้มาจากชื่อของแม่น้ำสายเล็กๆ ที่ไหลผ่านสวน ประวัติความเป็นมาของสวนโยะชิกิเอ็นสามารถนับย้อนหลังไปถึงปี 1919 แต่สวนและอาคารต่างๆ ได้ถูกโยกย้ายจากถิ่นเดิม มาตั้งอยู่ในเมืองนาราในปี 1989

ในสวนแบ่งออกเป็นสามส่วนด้วยกันคือ : สวนสระน้ำ สวนมอสหรือตะไคร่น้ำ และสวนดอกไม้สำหรับพิธีชงชา เปิดโอกาสให้คุณได้ชมสวนญี่ปุ่นสามแบบในที่เดียวกัน คุณจะได้ชมอาคารไม้หลังคามุงหญ้าที่ตั้งกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่สวน อาทิเช่น โรงน้ำชาในสวนมอส  โรงน้ำชาในสวนดอกไม้สำหรับพิธีชงชา และศาลาพักสำหรับชมวิว

ความงามของสวนโยะชิกิเอ็นนั้นนับว่าสวยงดงามในทุกฤดู แต่ที่เลิศหรูดูดีที่สุดก็คงต้องเป็นฤดูใบไม้ร่วง ยามที่ต้นมอสสีเขียวเข้มตัดกันอย่างเฉียบขาดกับใบโมะมิจิ หรือใบเมเปิ้ลญี่ปุ่นที่มีสีส้มหรือสีแดงสด และที่พิเศษและแตกต่างจากใครๆ ก็คือ นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าชมได้ฟรี ส่วนเจ้าถิ่นคนญี่ปุ่นต้องเสียค่าเข้าชมเล็กๆ น้อยๆ คนละ 250 เยน

การเดินทาง

เดินสิบห้านาทีจากสถานี Kintetsu Nara

จากสถานี JR Nara ขึ้นรถเมล์สาย #2, #70, #72, #97 ไปลงที่ป้ายรถเมล์ Kencho-higashi


 

0
2
บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่
ช่วยเราพัฒนาเว็ปไซต์ JapanTravel.com
ให้คำติชมหรือข้อเสนอแนะ

เข้าร่วมการสนทนา

Sutida Suttisirikul หนึ่งปีมาแล้ว
Suwannee Payne ผู้เขียน หนึ่งปีมาแล้ว
ถ้ามีโอกาส ต้องห้ามพลาดนะค่ะ

Thank you for your support!

Your feedback has been sent.