เกาะศิลปะซากุชิมา (Sakushima)

เมื่อศิลปะร่วมสมัยผสานกับวิถีชุมชนชาวเลอย่างลงตัว

หลายคนคงจะรู้จักกับเกาะนะโอชิมา (Naoshima) จ.คากาวะ (Kagawa) เกาะศิลปะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่นและเป็นแหล่งงานศิลปะที่โดดเด่นอันดับต้นๆ ของประเทศกันมาบ้างแล้ว วันนี้ผมจะลองพาคุณไปรู้จักกับเกาะศิลปะอีกเกาะกันบ้างซึ่งก็โด่งดังไม่แพ้กันซึ่งเกาะศิลปะแห่งนี้ก็คือ เกาะซากุชิมา (Sakushima) หนึ่งในสามเกาะของหมู่เกาะไอจิ (Aichi Archipelago) ที่ตั้งอยู่ในอ่าวมิกะวะ (Mikawa Bay) ตอนล่างของ จ.ไอจิ นั่นเอง เดิมทีเกาะแห่งนี้เป็นเพียงชุมชนชาวเลเล็กๆ แต่ภายหลังได้มีการสร้างเอกลักษณ์ขึ้นให้กับเกาะแห่งนี้ให้เป็นเกาะศิลปะ จนกลายเป็นอีกหนึ่งเกาะที่โด่งดังและมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร

โครงการศิลปะบนเกาะนะโอชิมา (Naoshima) นั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1989 ส่วนโครงการศิลปะบนเกาะซากุชิมานั้นเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ.2001 โครงสร้างของการสร้างสรรค์เกาะนี้มีลักษณะเดียวกันนั่นก็คือใช้ศิลปะเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดเอกลักษณ์ของชุมชนในรูปแบบใหม่ขึ้น หนึ่งในความเหมือนกันของโครงการทั้งสองนี้ก็คือการจับมือร่วมกับชุมชนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยศิลปะและการท่องเที่ยว อีกด้านที่เหมือนกันก็คือการจับมือของศิลปินหลายคนในวงการศิลปะที่เข้ามาร่วมกันสร้างสรรค์เอกลักษณ์ในเกาะนี้ให้มีเสน่ห์ที่ยั่งยืนไม่เหมือนใคร

โปรเจ็คศิลปะบนเกาะซากุชิมา (Sakushima) มีชื่อว่า ArtPlan21 เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.2001 ซึ่งเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ศิลปะเพื่อวาระแห่งการเฉลิมฉลองการก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 อีกด้วย ผลงานศิลปะในหลากรูปแบบหลายแนวความคิดถูกสร้างสรรค์ขึ้นตามจุดต่างๆ บนเกาะเรื่อยมาตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนถึงปัจจุบัน ทุกวันนี้มีผลงานสร้างสรรค์เกิดขึ้นบนเกาะแห่งนี้กว่า 21 ชิ้น ซึ่งเป็นผลงานศิลปะแนว Modern Art ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินรุ่นใหม่หลายต่อหลายคนตั้งแต่ศิลปินท้องถิ่นไปจนถึงศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับประเทศและระดับสากล โดยตัวอย่างผลงานที่โดดเด่นนั้นก็ได้แก่

  • Ohirune House (มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Nap House) โดย Yuki Minamikawa > ผลงานนี้สร้างสรรค์ขึ้นในปี ค.ศ.2004 โดยศิลปิน Yuki Minamikawa แห่ง Yuki Minamikawa Architecture Design Studio (www.k2.dion.ne.jp/~anonym) ออกมาเป็นกล่องไม้สี่เหลี่ยมขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่ริมทะเล กล่องไม้นี้มีรูจำนวน 9 ช่อง ซึ่งชื่อภาษาญี่ปุ่นของผลงานนี้แปลความได้ประมาณว่า “ที่นอนกลางวัน” กล่องไม้นี้จึงอนุญาติให้คนขึ้นไปนั่งเล่นนอนเล่นตามช่องต่างๆ ได้ตามสบาย (มีบันได้ไว้ให้) เป็นการสร้างปฎิสัมพันธ์ระหว่างผู้เสพงานกับตัวงานศิลปะด้วยการสัมผัสกับงานได้จริงๆ โดยเมื่อเราไปอยู่ในรูบนกล่องนั้นก็จะเห็นวิวทะเลผ่านช่องสี่เหลี่ยมอย่างงดงาม ได้ยินเสียงคลื่นเคล้าไปทำให้ผ่อนคลายและอยากเอนกายหลับตาฟังเสียงธรรมชาติอันแสนสงบนี้ Ohirune House ดูจะเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดบนเกาะนี้เพราะนอกจากมันจะปรากฏตามสื่อต่างๆ มากมายหลายแห่งแล้ว เจ้ากล่องสีดำนี้ยังไปปรากฏเป็นฉากหนึ่งของภาพยนตร์การ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องดังที่คนไทยรู้จักกันดีอย่าง โคนัน-ยอดนักสืบจิ๋ว ด้วย และนั่นก็ยิ่งทำให้ผลงานนี้โด่งดังขึ้นไปอีกจนมีหลายคนแวะเวียนมาเกาะนี้เพื่อมาถ่ายรูปคู่กับ Ohirune House เลียนแบบการ์ตูนเรื่องนี้โดยเฉพาะอีกด้วย

  • Kamome no chushajo (มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Gull’s Parking Lot) โดย Takahito Kimura > ผลงานนี้สร้างสรรค์ขึ้นในปี ค.ศ.2005 โดยศิลปินที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นอย่าง Takahito Kimura (www.takahitokimura.com) ซึ่งเป็นศิลปินที่มีบ้านเกิดอยู่ใน จ.ไอจิ อีกด้วย โดยไอเดียแรกเริ่มของงานชิ้นนี้เริ่มจากการที่เขามานั่งสังเกตการณ์บนเกาะเพื่อหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งาน เขาเห็นนกนางนวลเกาะอยู่บนโขดหินแล้วมันก็มองไปในทิศทางเดียวกันตามสัญชาติญาณซึ่งก็คือการจับทิศทางลมก่อนที่จะโผบินนั่นเอง เขารู้สึกว่านกนางนวลนั้นมองเห็นลมได้ ก็เหมือนกับคนในสมัยก่อนที่มักจะดูทิศทางลมเป็น ซึ่งนั่นเป็นสัญชาติญาณที่เกิดขึ้นจากการร่วมอยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง ผลงานที่จอดนกนางนวลนี้จึงเกิดขึ้นด้วยการสร้างสรรค์นกนางนวลจากแผนเหล็กแล้วนำไปตั้งเรียงกันเป็นฝูงบนแผ่นหิน ตัวนกนั้นสามารถหมุนได้ตามทิศทางลม เป็นผลงานศิลปะที่สะท้อนแนวความคิดของธรรมชาติได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว

  • Suwarutoko Project โดยกลุ่มศิลปิน MIURA LAB > ผลงานนี้สร้างสรรค์ขึ้นเมื่อปี ค.ศ.2008 เป็นฝีมือของกลุ่มศิลปิน MIURA LAB นักศึกษาแห่งภาควิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Faculty of Science and Technology) มหาวิทยาลัยเมโจ (Meijo University) เมืองนาโกย่า จ.ไอจิ แนวความคิดเริ่มแรกนั้นก็คือการออกแบบที่พักผ่อนริมทะเลให้โดดเด่นอย่างแตกต่าง นักศึกษากลุ่มนี้ถ่ายทอดมันออกมาเป็นการออกแบบเก้าอี้ไม้ตัวใหญ่ที่มีพื้นต่างระดับกัน สามารถขึ้นไปนั่งเล่น หรือนอนเล่นได้ รับลมเย็นเห็นวิวสวยของท้องทะเล แล้วมันก็สามารถขึ้นไปนั่งพร้อมกันทีละหลายๆ คน เรียกได้ว่ามาเป็นแกงค์ก็สามารถร่วมนั่งชมวิวได้สบายๆ แบบไม่บดบังกันด้วย โดยผลงานนี้ตั้งอยู่ตอนกลางของเกาะ บริเวณริมอ่าวด้านใน ตรงข้ามกับผลงาน Kamome no chushajo นั่นเอง

  • Gulliver no me (มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Gulliver’s Eyes) โดย Takahito Kimura > ผลงานนี้สร้างสรรค์ขึ้นในปี ค.ศ.2003 โดยศิลปิน Takahito Kimura ซึ่งนี่เป็นผลงานชิ้นแรกของเขาก่อนที่จะกลับมาทำงานชิ้นต่อไปอย่าง Kamome no chushajo ในปี ค.ศ.2005 นั่นเอง แนวความคิดของงานชิ้นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเทพนิยาชื่อดัง Gulliver's Travels ของนักประพันธ์ชาวไอริช Jonathan Swift โดยนำกระจกเงานูนรูปวงกลมที่คล้ายกับดวกตามาสื่อแทนดวงตาที่กลมโตของยักษ์ซึ่งหันมองสู่ท้องทะเลอันกว้างใหญ่ โดยเราสามารถไปยืนด้านหน้ากระจกทั้งสองบานใหญ่นี้ได้แล้ววิวที่เห็นผ่านกระจกนั้นก็เปรียบเสมือนภาพที่มองผ่านสายตาในโลกของยักษ์นั่นเอง เป็นการสัมผัสประสบการณ์ในอีกมุมมองที่เราไม่คุ้นเคยซึ่งจะทำให้เราเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ได้อีกด้วย ผลงานชิ้นนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลบริเวณฝั่งตะวันตกของเกาะ ใกล้กับท่าเรือ Sakushima (West)

  • East House โดย Yuki Minamikawa > ผลงานนี้สร้างสรรค์ขึ้นในปี ค.ศ.2010 เป็นการกลับมาสร้างผลงานใหม่บนเกาะนี้อีกครั้งหลังจากที่เขาได้สร้าง Ohirune House ในปี ค.ศ.2004 กล่องสีดำทางเกาะฝั่งตะวันตกก่อนหน้านี้ไปแล้ว Yuki Minamikawa จงใจสร้างกล่องสีขาวขึ้นอีกอันเพื่อตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะ ตรงข้ามกับตำแหน่งกล่องสีดำที่ตั้งอยู่ในริมอ่าวฝั่งตะวันตกของเกาะพอดี เขาจงใจใช้สีตรงข้ามเพื่อสื่อถึงสัญลักษณ์ที่ตรงข้ามกันด้วย แต่ออกแบบเป็นกล่องที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยผลงานนี้มีกล่องสี่เหลี่ยมยักษ์ 2 ใบดีไซน์ต่างกัน ฝั่งหนึ่งสามารถปีนขึ้นไปยืนเล่นรับลมด้านบนได้ ส่วนอีกฝั่งสามารถขึ้นไปนั่งชิลล์ชมได้คล้ายระเบียงบนดาดฟ้า สองกล่องนี้ตั้งอยู่ห่างกันราว 60 เมตร แต่จะมีทางเชื่อมต่อถึงกันเป็นทางเดินสีขาวทอดยาว และที่พิเศษขึ้นมาหน่อยก็คือ East House นี้จะตั้งอยู่บนสะพานข้ามทะเลที่เชื่อมเกาะใหญ่กับเกาะเล็กอีกเกาะนั่นเอง

  • Klein Garten Welcome Space โดย Toru Matsuoka > ผลงานนี้สร้างสรรค์ขึ้นในปี ค.ศ.2012 โดยศิลปิน Toru Matsuoka (torumatsuoka.jimdo.com) ซึ่งเขาเป็นชาว จ.ไอจิ โดยกำเนิด และเป็นศิลปินแนว Modern Art ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น งานชิ้นนี้สร้างสรรค์ขึ้นด้วยศิลปะแบบโมเสกที่นำเอากระเบื้องจตุรัสเล็กๆ หลากสีมาต่อกันจนเป็นลวดลายน่ารักสวยงามซึ่งสะท้อนวิถีชีวิตชุมชนชาวเลได้อย่างเห็นภาพชัดเจนและมีเอกลักษณ์ทีเดียว แรงบันดาลใจของรูปทรงงานชิ้นนี้ยังได้มาจากแนวทิวเขาที่สลับซับซ้อนบนเกาะแห่งนี้นั่นเอง โดยผลงานชิ้นนี้ตั้งอยู่ริมถนนเล็กๆ บนเกาะฝั่งตะวันออก นอกจากนี้บนเกาะยังมีผลงานน่าสนใจของ Toru Matsuoka อีกหลายชิ้นตั้งแต่ชิ้นเล็กๆ ไปจนถึงชิ้นใหญ่โดดเด่น

ถึงแม้ ArtPlan21 บนเกาะซากุชิมา (Sakushima) จะไม่ใหญ่เท่ากับโครงการศิลปะบนเกาะนะโอชิมา (Naoshima) หรือมีศิลปินมาสร้างสรรค์ที่ไม่มีชื่อเสียงเท่ากับที่โน่น แต่เกาะศิลปะแห่งนี้ก็ถือเป็นแหล่งศิลปะบนท้องทะเลที่โด่งดังรองลงมาจากเกาะซากุชิมาเลยทีเดียว และเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ผู้ที่ชื่นชอบศิลปะทั้งหลายใฝ่ฝันอยากจะไปเยือนเช่นกัน

----------

ซากุชิมา (Sakushima)

+ ที่ตั้ง : Sakushima, Isshiki, Nishio, Aichi

+ เว็บไซต์ : sakushima.com

----------

วิธีการเดินทาง

Nagoya – Sakushima Island

  • ขั้นตอนที่ 1 : จากสถานี Meitetsu Nagoya Station ไปที่ชานชาลาหมายเลข 4 ขึ้นรถไฟสายสีน้ำเงิน หรือ เหลือง ที่จะไปลงยังสถานี Nishio
  • ขั้นตอนที่ 2 : จากสถานี Nishio ให้ขึ้นรถบัสสายที่ไปลงยัง Isshiki Sakana Hiroba (ตลาดปลาอิชิกิ) หรือ Isshiki Port (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที – เที่ยวแรก 08.40 น. เที่ยวสุดท้าย 14.45 น.)
  • ขั้นตอนที่ 3 : จากท่าเรือ Isshiki Port ขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปลงยังท่าเรือ Sakushima (East) หรือ Sakushima (West) ตามต้องการ (ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที / เรือเที่ยวแรกจาก Isshiki Port 07.40 น. เที่ยวสุดท้าย 17.50 น. /  เรือเที่ยวแรกจาก Sakushima (East) 06.55 น. (West) 07.02 น. เที่ยวสุดท้าย (East) 17.15 น. (West) 17.22 น. / หมายเหตุ : ตารางอาจมีการเปลี่ยนแปลงเวลาบ้าง โปรดเช็คตารางเรือตามฤดูกาลอีกครั้งหนึ่ง)

0
0
บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่
ช่วยเราพัฒนาเว็ปไซต์ JapanTravel.com
ให้คำติชมหรือข้อเสนอแนะ

แสดงความคิดเห็น

Thank you for your support!

Your feedback has been sent.