Kinosaki เมืองแห่งน้ำพุร้อน

คิโนซากิ เมืองแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง

คิโนซากิเป็นเมืองเก่าแก่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดเฮียวโงะ เมืองเล็กๆ นี้สร้างเลียบคลองต้นหลิว ในช่วงศตวรรษที่ 8 มีการค้นพบบ่อน้ำพุร้อนในเมือง ตั้งแต่นั้นมาคิโนซากิก็ถูกพัฒนาให้เป็นเมืองแห่งน้ำพุร้อน ซึ่งมีชื่อเสียงอย่างมากในภูมิภาคคันไซจวบจนปัจจุบัน โดยสามารถเดินทางมาที่คิโนซากิได้ทุกวันทางรถไฟทั้งจากโอซาก้า เกียวโต และฮิเมจิ

คิโนซากิเป็นเมืองที่เหมาะแก่การพักผ่อน มีน้ำพุร้อนสาธารณะที่มีชื่อเสียงถึง 7 บ่อ โดยทั่วไปเมื่อต้องการพักผ่อนที่คิโนซากิ นักท่องเที่ยวควรจองที่พักแบบเรียวกังภายในตัวเมือง เนื่องจากสามารถใช้บริการบ่อน้ำพุร้อนสาธารณะทั้ง 7 บ่อได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อีกทั้ง ที่เรียวกังยังมีชุดยูกาตะและรองเท้าเกี๊ยะให้ใส่เดินเล่นภายในเมืองอีกด้วย

นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปตามถนนเลียบคลองต้นหลิว ท่ามกลางบรรยากาศดั้งเดิมของญี่ปุ่นด้วยชุดยูกาตะและเกี๊ยะคู่ใจ พร้อมทั้งแวะผ่อนคลายกับบ่อน้ำพุร้อนสาธารณะทั้ง 7 บ่อ ตัวอย่างบ่อน้ำพุร้อนที่ผมได้ใช้บริการ เช่น Goshono-yu เป็นบ่อน้ำพุร้อนขนาดกลางซึ่งมีวิวน้ำตกที่งดงามตามธรรมชาติ และเชื่อว่าหากได้แช่น้ำร้อนที่นี่ จะนำมาซึ่งความโชคดีเรื่องคู่ครองและป้องกันภัยอันตรายจากอัคคีภัย ถัดมาคือ Ichino-yu ที่มีการออกแบบให้ทันสมัย โดยเชื่อว่าการแช่น้ำพุร้อนที่นี่จะนำมาซึ่งความสำเร็จในการเรียนและความปลอดภัยในการเดินทาง และ Satono-yu ที่มีทั้งห้องซาวน่า บ่อน้ำร้อนจากุซซี่และบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งซึ่งมองเห็นวิวภูเขา อีกทั้งที่นี่ยังมีการสลับบ่อน้ำชายและหญิงทุกวัน ซึ่งจะเป็นการสลับบ่อน้ำพุแบบญี่ปุ่นและแบบโรมัน จึงควรที่จะทดลองแช่น้ำร้อนที่นี่มากกว่า 1 ครั้ง นอกจากนี้ หากต้องการแช่บ่อน้ำพุร้อนส่วนตัว บ่อน้ำพุร้อนสาธาราณะบางแห่งจะมีบริการนี้ให้ เช่นที่ Jizou-yu หรือ Ichino-yu หรือสามารถใช้บริการบ่อน้ำพุร้อนส่วนตัวจากที่พักแบบเรียวกังซึ่งมีให้เลือกมากกว่า 100 แห่งในเมืองคิโนซากิ

บรรยากาศยามเย็นภายในตัวเมือง เป็นช่วงเวลาที่ควรออกมาสัมผัสอย่างยิ่ง การเดินไปตามถนนภายในตัวเมืองพร้อมกับมองดูนักท่องเที่ยวที่พร้อมใจกันใส่ชุดยูกาตะออกมาพักผ่อน แช่น้ำร้อน เล่นเกมยิงปืน ตักลูกโป่ง หรือแม้กระทั่งหาซื้อขนมหรือไอศกรีมที่มีอยู่ตามสองข้างทาง เป็นการพักผ่อนย่อนใจที่ไม่สามารถหาจากเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ ในญี่ปุ่นได้อย่างแน่นอน

คุณสามารถรับประทานอาหารเย็นแบบไคเซกิได้ที่เรียวกัง ซึ่งไม่ควรพลาดเนื้อทาจิมะชื่อดังของจังหวัดเฮียวโงะที่รับประทานคู่กับน้ำจิ้มพอนซึอันหอมหวน รสชาติหวานอมเปรี้ยวของน้ำจิ้มพอนซึกับความนุ่มของเนื้อทาจิมะนั้นเข้ากันได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเป็นมื้ออาหารเย็นที่สุดแสนประทับใจในคิโนซากิ

เทศกาลที่สำคัญในคิโนซากิมี 4 เทศกาล เทศกาลน้ำพุร้อน (23 – 24 เมษายน) จัดขึ้นทุกปีเพื่อระลึกถึงผู้ก่อตั้งเมืองคิโนซากิ มีกิจกรรมต่างๆ มากมาย เทศกาลฟุรุซาโตะ (เดือนสิงหาคม) ซึ่งความหมายของชื่อเทศกาลคือ “คิโนซากิซึ่งเป็นบ้านเกิดของเรา” จัดขึ้นช่วงเดือนสิงหาคม มีอาหาร เกม กิจกรรม การแสดงมากมาย และที่พลาดไม่ได้ในเทศกาลนี้คือการแสดงดอกไม้ไฟที่จัดในยามค่ำคืน นักท่องเที่ยวจะได้ชมดอกไม้ไฟร่วมกับเพื่อนนักท่องเที่ยวที่พักในคิโนซากิ ซึ่งสวยงามและน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ขบวนแห่ดันจิริฤดูใบไม้ร่วง (14 – 15 ตุลาคม) เป็นเทศกาลอธิษฐานเพื่อให้มีโชคลาภและเจริญรุ่งเรือง และสุดท้ายเทศกาลคิโนซากิ อาณาจักรปู (พฤศจิกายน – มีนาคม) เป็นช่วงที่สามารถจับปูมัทซึบะ ปูหิมะขึ้นชื่อของย่านคิโนซากิ โดยสามารถทดลองชิมซุปปู หรือร่วมกิจกรรรมสนุกๆ เช่น “การแข่งตะโกน” ที่ผู้เข้าแข่งขันต้องแข่งกันขอบคุณต่อการประมงซึ่งนำปูมาสู่คิโนซากิทุกปี และแน่นอนว่าคุณไม่ควรลืมที่จะชิมปูหิมะแห่งคิโนซากิ

จากที่ได้สัมผัสเมืองแห่งน้ำพุร้อนนี้ ผมแนะนำให้พักผ่อนอย่างน้อย 2 คืน เพื่อที่จะได้มีเวลาเดินชื่นชมบรรยากาศ พร้อมทั้งแช่บ่อน้ำร้อนทั้ง 7 ได้ครบถ้วน ความน่ารักอีกอย่างหนึ่งของเมืองแห่งนี้คือ การเป็นเมืองที่จัดการการท่องเที่ยวได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในญี่ปุ่น ตั้งแต่คุณเดินออกจากช่องทางออกของสถานีรถไฟเลยทีเดียว คุณจะพบกับผู้คนที่เป็นมิตรที่พร้อมจะช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอย่างเต็มใจ จนทำให้เมืองแห่งน้ำพุร้อนนี้ไม่ใช่เป็นแค่เมืองท่องเที่ยว แต่เป็นเมืองที่จะอยู่ในความทรงจำของนักท่องเที่ยวตลอดไป

5
0
บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่
ช่วยเราพัฒนาเว็ปไซต์ JapanTravel.com
ให้คำติชมหรือข้อเสนอแนะ

แสดงความคิดเห็น

Thank you for your support!

Your feedback has been sent.