ความประทับใจครั้งแรกของฉันเมื่อเดินอยู่บนเส้นทางเดินเข้าสู่ เมจิ จินกุ (Meiji Jingu) ..ฉันยืนอยู่กลางมหานครใหญ่ 'โตเกียว' หรือนี่? ไม่ใช่มั้ง ฉันคงหลงอยู่ในป่าใหญ่ ป่าศักดิ์สิทธิ์ ลึกลับ ที่ไหนสักแห่ง แต่เมื่อดูไปรอบตัว เห็นผู้ร่วมทางมากมาย ที่มีจุดหมายปลายทางเดียวกัน นั่นเป็นตัวยืนยันแน่นอนว่า ฉันยืนอยู่กลางเมืองโตเกียว มหานครที่มีประชากรมากที่สุดในโลก
เมจิ จินกุ เป็นศาลเจ้าชินโตที่สร้างเสร็จในปี 1920 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแด่องค์จักรพรรดิเมจิ และพระมเหสี จักรพรรดินีโชะเก็น (Shoken) ผืนป่าที่รายรอบเมจิ จินกุ แห่งนี้เป็นการร่วมมือร่วมใจของประชาชนชาวญี่ปุ่น ทั้งการบริจาคต้นไม้ 100,000 ต้น และการร่วมมือกันปลูกต้นไม้ เพื่อสร้างป่ากลางกรุง ผลงานที่ออกมาวิเศษสุด 'ป่าศักดิ์สิทธิ์' ใจกลางมหานคร
ตรงทางเข้าริมถนนใหญ่ ที่มีประตูโทริที่สร้างจากไม้ทั้งต้น ไม่ได้ทาสีแดงเหมือนประตูโทริทั่วไป ผู้เข้าชมทุกคนจะต้องเดินเท้าเข้าไป บนทางดินโรยด้วยกรวดหินเรียบๆ ง่ายๆ ผ่านป่าที่ต้นไม้แต่ละต้นสูงใหญ่หลายคนโอบ ตามทางเดินจะมีป้ายที่มีรูปวาด และคำอธิบายเล่าเรื่องราวขององค์จักรพรรดิเมจิ และพระมเหสี จักรพรรดินีโชะเก็น
ในบริเวณนี้จะมีสวนที่ทั้งสองพระองค์มาเยี่ยมชมอยู่เสมอ ในขณะมีชีวิตอยู่ สวน Meiji Jingu Inner Garden ค่าเข้าชม 500 เยน และพิพิธภัณฑ์ Treasure House ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ 500 เยน
ตัวอาคารศาลเจ้าและบริเวณรอบๆ เป็นอาคารไม้ สร้างแบบเรียบๆ งดงาม และเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความขรึมขลัง ทั้งๆ ที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน ฉันได้มีโอกาสชมพิธีแต่งงานชินโตแบบดั้งเดิม ได้เห็นและเรียนรู้วิธีการทำความเคารพศาลเจ้าของคนญี่ปุ่น โดยเริ่มจากการโยนเหรียญลงในกล่องรับบริจาก ก้มตัวคำนับสองครั้ง ตบมือสองครั้ง แล้วก้มตัวคำนับอีกหนึ่งครั้ง เป็นอันเสร็จพิธี ศาลเจ้าเมจิ จินกุ นี้เข้าชมฟรี ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ
สถานีรถไฟที่อยู่ใกล้ศาลเจ้าเมจิ จินกุ คือสถานีฮาราจูกุ บนรถไฟสายเจอาร์ ยะมะโนะเตะ (JR Yamanote) และสถานี เมจิ จินกุ มะเอะ (Meiji-jingu-mae) บนรถไฟสาย ชิโยะดะ (Chiyoda) และ ฟุกุโตะชิน (Fukutoshin)
มาหลงอยู่ในป่ากลางกรุงโตเกียว สัมผัสกับความศรัทธาของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อศาสนาและพระมหากษัตริย์ของพวกเขา ชื่นชมไปกับศิลปและสถาปัตยกรรม ที่เรียบง่ายแต่งดงาม ศาลเจ้าเมจิ จินกุ ที่ที่ไม่ควรพลาด หากคุณมาเยือนโตเกียว